ตอนนี้น้ำในเขื่อนหลายแห่งลดลงอย่างต่อเนื่อง อย่างในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา พบว่า ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ 27 แห่ง มีน้ำกักเก็บตอนนี้ไม่ถึงครึ่งของความจุอ่าง
สภาพอากาศที่ร้อนแล้งทำให้ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ ลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลต่อปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยนายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครราชสีมา เปิดเผยว่า อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่ง และขนาดกลางอีก 23 แห่งของจังหวัดนครราชสีมา มีปริมาณน้ำเก็บกัก 605 ล้าน 3 แสนลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 49.75 ของความจุเก็บกักทั้งหมด และเป็นน้ำใช้การได้เพียง 542 ล้าน 8 แสน 2 หมื่นลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 47.03 เท่านั้น และถ้าเทียบกับปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกันพบว่า มีน้ำใช้การได้ ร้อยละ 79.92
ส่วนสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่ง พบว่า อ่างเก็บน้ำลำตะคอง อำเภอสีคิ้ว เหลือน้ำใช้การได้ร้อยละ 41.61, อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อำเภอปักธงชัย เหลือน้ำใช้การได้ร้อยละ 61.51, อ่างเก็บน้ำมูลบน อำเภอครบุรี เหลือน้ำใช้การได้ร้อยละ 46.47 และอ่างเก็บน้ำลำแชะ อำเภอครบุรี เหลือน้ำใช้การได้ร้อยละ 45.03
ในขณะเดียวกันมีอ่างเก็บน้ำ 3 แห่ง ที่มีปริมาณน้ำเหลือน้อยมากไม่ถึงร้อยละ 30 คือ อ่างเก็บน้ำห้วยปราสาทใหญ่ อำเภอด่านขุดทด เหลือน้ำใช้การแค่ 1 ล้าน 4 แสนลูกบาศก์เมตร, อ่างเก็บน้ำหนองกก อำเภอพระทองคำ เหลือน้ำใช้การ 4 แสน 3 หมื่นลูกบาศก์เมตร และอ่างเก็บน้ำบึงกระโตน อำเภอประทาย เหลือน้ำใช้การแค่ 1 ล้าน 3 แสน 1 หมื่นลูกบาศก์เมตรเท่านั้น
ส่วนการบริหารจัดการน้ำ ตอนนี้ชลประทานได้เร่งส่งน้ำลงไปตามคลองธรรมชาติ และคลองชลประทานเพื่อรักษาระบบนิเวศลำน้ำ และส่งน้ำไปถึงพื้นที่ปลายน้ำเพื่อสนับสนุนการผลิตประปาหมู่บ้าน จึงขอความร่วมมือเกษตรกรงดสูบน้ำไปใช้ทำนาปรัง เพราะอาจเกิดผลกระทบ ต่อการผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภค