กกต.ทุ่มงบประมาณ 1,000 ล้านบาท จัดเลือกตั้งไขว้ ระหว่าง 20 กลุ่มวิชาชีพ เพื่อให้ได้ สว.ชุดใหม่ 200 คน ภายในกรกฎาคมนี้ หลัง สว.คสช.สิ้นสุดวาระ 10 พฤษภาคม พร้อมคาดการณ์ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ไม่น้อยกว่า 1 แสนคน พร้อมวางเกณฑ์รับมือฮั้วกันเองในกลุ่มผู้สมัคร และ การจัดตั้งจากฝ่ายการเมือง
กกต.จัดประชุมใหญ่ให้ความรู้กับสื่อมวลชน ในการจัดการเลือกตั้ง สว.ปี 2567 ด้วยเป้าหมายการเลือกตั้ง สว. ต้องโปร่งใส-เที่ยงธรรมทุกขั้นตอน และต้องเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย พร้อมกับการป้องกันเรื่องการจัดตั้ง หรือฮั้วกันเอง
สำหรับงบประมาณที่ใช้ กกต.คาดว่าไม่น้อยกว่า 1 พันล้านบาท แต่ไม่เกิน 2,000 ล้านบาท โดยผู้มีสิทธิ์สมัคร จะต้องเสียค่าสมัคร 2,500 บาท
ขณะเดียวกัน กกต.ยังไล่เรียงรายละเอียดถึงคุณสมบัติการเป็น สว. โดยมาจาก 20 กลุ่มวิชาชีพ และจาก สว.ชุดปัจจุบัน หรือ สว.ที่มาจากการคัดเลือกของ คสช. จะหมดวาระในวันที่ 10 พฤษภาคม 2567 หลังจากนั้น กกต.จะประกาศวันให้มีการเลือก สว.ชุดใหม่ ภายใน 5 วัน นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกา ให้มีการเลือกตั้ง สว.ใช้บังคับ
หลังจากภายใน 15 วัน จะต้องเปิดรับสมัคร ทั้งระดับอำเภอ จังหวัด และระดับประเทศ ท้ายที่สุดเหลือ 200 คน และสำรอง 100 คน โดยจะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 57-59 วัน ซึ่งวันประกาศผลการเลือก สว. อาจจะตรงกับในช่วงเดือนกรกฎาคม
กกต.พร้อมเปิดทางให้คนมีชื่อเสียงเปิดตัวได้ และสถาบันอบรมให้ความรู้ผู้สมัครสามารถทำได้เช่นกัน แต่ขออย่าคิดไปไกลถึงขั้นจะมีการล็อบบี้ เพราะต้องดูข้อเท็จจริง พร้อมเตือนพรรคการเมือง-อดีต สว.ห้ามยุ่ง หรือเข้ามาแทรกแซง เพราะสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย และหาเสียงไม่ได้
กกต.เดินเครื่องยุบ “ก้าวไกล-ภูมิใจไทย”
ส่วนการพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกล ประธาน กกต.ระบุว่า หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย /กกต.ก็เดินเครื่องให้ไปศึกษาคำวินิจฉัย และตัวบทของกฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมือง ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร ก่อนเสนอผลเบื้องต้น ซึ่งเห็นพ้องกันว่า ควรจะนำเอาคำวินิจฉัย ฉบับสมบูรณ์ ที่ลงในราชกิจจานุเบกษา มาประกอบการพิจารณาเสนอความเห็น ซึ่งจะใช้เวลาไม่นาน
ส่วนกรณียื่นคำร้องยุบพรรคภูมิใจไทย อยู่ระหว่างการพิจารณาของนายทะเบียนพรรคการเมือง ว่ามีมูลหรือไม่ หากพบก็จะสั่งตั้งคณะตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนดำเนินการตามขั้นตอน และกรอบเวลาโดยยืนยันจะไม่ล่าช้า ขณะที่คำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง สส. หลังปี 2566 จาก 378 เรื่อง/ เหลือ 35 เรื่อง