เจ้าหน้าที่ตำรวจ , พลเมืองดี รวมถึงลูกเลี้ยง และลูกสะใภ้ ได้ช่วยกันห้าม นายไพฑูรย์ อายุ 66 ปี ชาวจังหวัดตราด อดีตทหารบก ที่กำลังรีบนำเงินสดจากการขายทอง ฝากเข้าตู้ฝากเงินอัตโนมัติ เพื่อเข้าบัญชีธนาคารของตัวเอง โดยตำรวจไดอธิบายและห้ามนายไพฑูรย์ แต่ก็ไม่ยอมฟัง อีกทั้งยังหันมาให้ตำรวจและผู้สื่อข่าวช่วยฝากเงินเข้าให้ด้วย บอกแต่ว่า “หากผมไม่ฝากก่อน 3 ทุ่ม ผมตายแน่”
เพื่อนบ้านนายไพฑูรย์ บอกว่า ช่วงเย็นวานนี้ (24 ก.พ. 67) ทราบว่า นายไพฑูรย์เอาสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท ไปขายให้คนรู้จัก และคนนั้นโทรมาบอกตน ตัวเองเลยมาตามหานายไพฑูรย์ ระหว่างนั้นก็โทรศัพท์หา นางอำพา ภรรยาของนายไพฑูรย์
ก่อนจะมาพบว่านายไพฑูรย์กำลังยืนฝากเงินที่หน้าตู้เอทีเอ็ม จนมาทราบว่านายไพฑูรย์ถูกหลอกให้ลงทุน ซึ่งก่อนหน้านี้โอนเงินไปแล้ว 100,000 บาท และกำลังจะหาเงินฝากเพิ่มอีก 200,000 บาท พอห้ามก็ไม่ฟัง จึงต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทั้งภรรยานายไพฑูลย์มาถึง ก็ได้เข้าไปโผกอดสามีและร้องไห้ออกมา พร้อมบอกว่า เสียแล้วก็เสียไป
ต่อมานายไพฑูลย์ นำแชทสนทนาให้ผู้สื่อข่าวและตำรวจดู พบว่าเป็นการคุยไลน์บุคคลหนึ่ง ใช้ชื่อว่าฝ่ายปฏิบัติการ AOC อ้างกับนายไพฑูรย์ว่าเป็นตำรวจ ให้ร่วมลงทุน ซึ่งนายไพฑูรย์ก็หลงเชื่อ และโอนเงินไปฝากหลายครั้ง รวมกว่า 100,000 บาท และในแชทสนทนาบอกอีกว่า หากต้องการถอนเงินทั้งหมดต้องโอนเงินไปฝากเพิ่มอีกกว่า 200,000 บาท และต้องโอนก่อนเวลา 21.00 น. นายไพฑูรย์จึงพยายามฝากเงินดังกล่าว
สุดท้ายนายไพฑูรย์ยอมเดินกลับไปที่รถและกลับบ้านไป ทางญาติบอกว่าวันนี้จะรวบรวมหลักฐานและเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองตราดต่อไป