ข้อพิพาทเรื่องการออกเอกสารสิทธิ์ระหว่าง ส.ป.ก.จังหวัดนครราชสีมา กับ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ / วันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยสั่งตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาพิจารณา หลังทั้งสองหน่วยงานต่างยึดแผนที่คนละฉบับ
ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวย้ำ กับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.จังหวัดนครราชสีมา ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ระหว่างลงพื้นที่รับฟังข้อมูลปัญหา หลังกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตรวจพบการออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. 4-01 ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ บ้านเหวปลากั้ง ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และยังจับกุมผู้ครอบครองและบุกรุกพื้นที่ 1 แปลง เนื้อที่ 15 ไร่
การลงพื้นที่วันนี้ พบว่าบริเวณเดียวกัน มีการออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. แล้ว 5 แปลง แปลงละ 15 ไร่ ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.จังหวัดนครราชสีมายืนยันว่า พื้นที่ทั้งหมดอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน ไม่ใช่เขตอุทยานฯ
ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่า ปัญหานี้เกิดจากข้อพิพาทที่ดินของ 2 หน่วยงาน ที่ต่างถือแผนที่ และกฎหมายคนละฉบับ หลังจากนี้จะเสนอให้ คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ คทช. ซึ่งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน แต่งตั้งคณะกรรมการกลาง เพื่อพิจารณาปัญหาจนกว่าจะได้ข้อสรุป
และระหว่างนี้ขอให้ทั้งสองหน่วยงาน ยุติการและชะลอการดำเนินคดีผู้ครอบครองที่ดิน แปลงที่ ส.ป.ก.นครราชสีมา ออกเอกสาร ส.ป.ก. 4-01 เรียบร้อยแล้ว
ปัญหาการบุกรุกป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ครั้งนี้ เกิดขึ้นช่วงปลายปี 2566 เจ้าหน้าที่พบว่า สภาพพื้นที่ป่าที่ถูกแผ้วถาง เป็นรอยแหว่งเข้าไปในเขตป่าทึบของผืนป่ามรดกโลก
เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จึงลาดตระเวน และพบหลักหมุดของ ส.ป.ก. ที่เพิ่งนำมาปักในเขตอุทยานฯ จึงทำหนังสือทักท้วง ไปที่ ส.ป.ก.นครราชสีมาให้ตรวจสอบ เพราะจุดที่ปักหมุดยังมีสภาพป่าสมบูรณ์ มีร่องรอยการหากินของสัตว์ ไม่ใช่ป่าเสื่อมโทรม
จนกระทั่งเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีการจับกลุ่มชายฉกรรก์ 5 คน ที่เข้าไปแผ้วถางป่า แต่ผู้ต้องหานำเอกสารสปก.4-01 มาแสดงว่าเข้ามาทำกินในเขตปฏิรูปที่ดินอย่างถูกต้อง ก่อนจะมีคนมาประกันตัวเพื่อต่อสู้คดี