คัดลอก URL แล้ว
“เรดวัน (redONE)” ร่วมหนุนช้างศึก 2024

“เรดวัน (redONE)” ร่วมหนุนช้างศึก 2024

“เรดวัน (redONE)” ร่วมสนับสนุน ฟุตบอลทีมชาติไทย “ช้างศึก 2024” อย่างเป็นทางการ ภายใต้แคมเปญ “เชียร์สุดใจ ใช้เรดวัน”

เรดวัน (redONE) ผนึกกำลัง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สนับสนุน “ช้างศึก” ฟุตบอลทีมชาติไทย อย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป ภายใต้แคมเปญ เชียร์สุดใจ ใช้เรดวัน

บริษัท เรดวัน เน็ตเวิร์ค จำกัด ผู้นำโทรคมนาคมในระบบ MVNO ระดับอาเซียนจากประเทศมาเลเซีย ภายใต้แบรนด์ “เรดวัน (redONE)” เปิดเกมรุก ลุยเต็มพิกัดกับการขยายตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไทยด้วยแพ็กเกจซิมรายเดือน เน็ตไม่อั้นสุดคุ้มค่า โดยทีมผู้บริหาร ประกอบด้วย Tee Yew Yaw ประธานกลุ่มเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เรดวัน เน็ตเวิร์ค (Group Chief Operating Officer: Group COO), Ben Teh ประธานกลุ่มเจ้าหน้าที่ฝ่ายการขาย บริษัท เรดวัน เน็ตเวิร์ค (Group Chief Sales Officer: Group CSO), Alvin Liew ที่ปรึกษาอาวุโส บริษัท เรดวัน เน็ตเวิร์ค (ประเทศไทย) จำกัด (redONE Network (Thailand) Senior Consultant), คุณอธิป กีรติพิชญ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท เรดวัน เน็ตเวิร์ค (ประเทศไทย) จำกัด (Chief Executive Officer: CEO), Farid Yunus ประธานกลุ่มเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร) บริษัท เรดวัน เน็ตเวิร์ค (Group Chief Executive Officer) และ David Lim Wei Seong ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท เรดวัน เน็ตเวิร์ค (ประเทศมาเลเซีย) (Chief Financial Officer: CFO)

หลังจากนี้ทัพ “ช้างศึก” จะเดินหน้าไปพร้อมๆ กับ เรดวัน (redONE) โดยมีเป้าหมายเดียวกันก็คือการสร้างความสุขให้กับชาวไทย สำหรับปี 2567 ฟุตบอลทีมชาติไทย มีโปรแกรมการแข่งขันรายการสำคัญ คือ ฟุตบอลฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก ที่ยังมีลุ้นเข้าสู่รอบคัดเลือกรอบ 3 ซึ่งการเข้ามาสนับสนุนของตลอดทั้งปีของ เรดวัน (redONE) ในครั้งนี้นอกจากจะสร้างขวัญกำลังใจให้กับทัพนักเตะทีมชาติไทยแล้ว ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับแฟนบอลในฐานะผู้บริโภค ในการเปิดใจใช้เครือข่ายน้องใหม่ที่มาพร้อมกับแพ็กเกจรายเดือนราคาประหยัดและดีที่สุดในตลาดขณะนี้

สำหรับ เรดวัน เน็ตเวิร์ค นั้นก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2012 พร้อมกับเป็นที่รู้จักว่าคือผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือราคาประหยัดและได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งใน มาเลเซีย และ สิงคโปร์ ที่เปิดให้บริการในประเทศไทยแล้วด้วยแรงบันดาลที่ว่า #เข้าใจง่าย พร้อมกับอยากอยากเห็นผู้ใช้งานมือถือได้หลุดพ้นจากกรอบค่าใช้จ่ายส่วนเกินที่ไม่จำเป็น


ข่าวที่เกี่ยวข้อง