วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยถึงกรณีมีผู้แอบอ้างเป็นหนึ่งในคณะทำงานของนายชาดา ไทยเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์จากสถานบริการประเภทคาราโอเกะ เพื่อเป็นค่าคุ้มครองป้องกันไม่ให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยเข้าจับกุม ซึ่งจากเบาะแสทราบว่ามีการเรียกรับเงินในอัตรา 300,000 – 400,000 ต่อร้าน โดยข่มขู่ว่าหากไม่จ่ายเงินค่าคุ้มครองจะดำเนินการจับกุมสถานบริการ อีกทั้งยังอ้างถึงการประสานผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย หากไม่จ่ายเงินค่าคุ้มครองดังกล่าว
นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งเบาะแสดังกล่าว ตนจึงได้ประสานงานไปยังคณะทำงานของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมสั่งการให้ที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงราย นำโดยนายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ ปลัดจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายอำเภอเมืองเชียงราย ปลัดอำเภอ สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย เข้าตรวจสอบบุคคลผู้แอบอ้างดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้วางแผนการล่อซื้อ ด้วยการให้สายลับเข้าทำการจ่ายเงินค่าคุ้มครองให้แก่ผู้แอบอ้างเป็นค่ามัดจำเงินสด จำนวน 100,000 บาท โดยมีการนัดหมายเพื่อจ่ายเงินกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงราย ซึ่งเมื่อเป้าหมายมาถึงเจ้าหน้าที่สายลับได้จ่ายเงินให้กับบุคคลผู้แอบอ้าง พร้อมทั้งแสดงตัวเข้าจับกุมและตรวจสอบบุคคลผู้แอบอ้างทันที ทราบชื่อคือ นายสุทธิรัตน์ (สงวนนามสกุล) พร้อมกับธนบัตรเงินสดที่มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแล้วนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงรายดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
“จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ผู้แอบอ้างได้มีการกล่าวอ้างถึงผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยจริง โดยกล่าวอ้างว่า นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ส่งให้มาเรียกค่าคุ้มครองจากสถานบริการหรือธุรกิจอื่น โดยเรียกอัตราค่าคุ้มครองตามขนาดของร้าน ในอัตรา 300,000 – 400,000 บาทต่อร้าน และหากร้านไหนจ่ายจะไม่ให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองเข้ามาจับกุม และหากคุยไม่ได้จะส่งรายชื่อสถานบริการที่จ่ายค่าคุ้มครองให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเพื่อดำเนินการทันที โดยในด้านของคณะทำงานของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้การยืนยันว่าไม่มีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยคนใดที่จะเรียกรับผลประโยชน์จากสถานบริการ หากมีบุคคลใดไปแอบอ้างคือเป็นการหลอกลวงทั้งสิ้น” นายพุฒิพงศ์ฯ กล่าวเพิ่มเติม
นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอย้ำเตือนผู้ประกอบการทุกประเภทว่า “คนมหาดไทยไม่มีเรียกรับผลประโยชน์ ไม่มีคำว่าเคลียร์ใดๆ ถ้าจะเคลียร์กับสิ่งผิดกฎหมาย คือ ต้องจับสถานเดียว ไม่มีละเว้น” พร้อมทั้งขอแจ้งไปยังพี่น้องประชาชน ตลอดจนผู้ประกอบการต่าง ๆ ต้องระมัดระวังมิจฉาชีพหรือผู้แอบอ้างชื่อผู้มีอำนาจของรัฐ เพื่อเรียกรับเงิน ซึ่งปัจจุบันมีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจำนวนมาก และมักจะมาหลากหลายวิธีการ หากท่านพบมีผู้กระทำการดังกล่าวอย่าหลงเชื่อเป็นอันขาด ถ้าทำได้ขอให้อัดเสียงกับโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อื่นใดที่อัดเสียงได้ บันทึกได้ แล้วนำหลักฐานแจ้งความทันที หรือสามารถขอรับคำปรึกษาและแจ้งเบาะแสที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย สายด่วน 1567 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง