จากกรณีชายพิการใช้รถโยกสามล้อจากสุโขทัย เดินทางเข้ากรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปที่กรมบัญชีกลาง เพื่อไปยืนยันตัวตน เนื่องจากถูกตัดสิทธิ์ผู้พิการ และไม่มีบัตรประชาชน ถึงแม้หลายหน่วยงานจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออำนวยความสะดวกเพราะเกรงจะเกิดอันตราย แต่กลับถูกปฎิเสธการช่วยเหลือในทุกด้าน และถูกด่าท่อต่อว่า พร้อมโยกรถจะพุ่งชนนักข่าว
ล่าสุดวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เวลาประมาณ16.00 น. พระครูสังฆรักษ์ดุสิต จันทโชโต เจ้าอาวาสวัดราชบำเพ็ญ จ. พระนครศรีอยุธยา ได้มีการพูดคุยกับนายมณฑล ชายพิการ ขณะมาพักเหนื่อยอยู่ที่วัด โดยกล่าวว่า อยากจะให้นายมณฑลนั้นแสดงกริยาวาจาพูดคุยกันดีๆ เพราะนักข่าวเดินทางมาที่นี่ต้องการที่จะให้ความช่วยเหลือ อย่าไปกล่าวหาใคร และอาตมาก็ให้อาศัยวัด เพราะคิดว่าโยมเป็นคนดี เป็นคนพิการ ให้อาศัยที่วัดแห่งนี้หลับนอน และอยากให้โยมใจอ่อนลงบ้าง คุยกับทุกฝ่ายดีๆ และแยกแยะว่าใครทำดีหรือไม่ดีกับเรา ซึ่งผู้สื่อข่าวก็มาทำตามหน้าที่ และเข้ามาช่วยเหลือ
ต่อมาเมื่อนายมณฑล อารมณ์เย็นขึ้น ก็ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองไม่ได้หิวแสง ไม่ได้ต้องการเป็นข่าวดัง เพียงแต่ต้องการแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ด้วยการโยกรถสามล้อคนพิการจากจังหวัดสุโขทัยมายังกรุงเทพฯ เพื่อมาทวงสิทธิ์ให้กับคนพิการทั้งประเทศ เนื่องจากตนเองเชื่อว่ายังมีผู้พิการอีกจำนวนมากที่ถูกตัดสิทธิ์โดยไม่ชอบธรรม จึงต้องการจะโยกรถสามล้อคนพิการไปยังกรมบัญชีกลาง และกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อสอบถามกับนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เท่านั้น
ไม่ได้ต้องการเงินบริจาค ไม่ต้องการความช่วยเหลือ ทั้งการทำบัตรประชาชน และการต่ออายุบัตรผู้พิการเพื่อรับสิทธิ์ 800 บาทแต่อย่างใด แต่ตนเองต้องการจะทำให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ ก็คือการเดินทางไปให้ถึงตามที่ได้ตั้งใจเอาไว้ ตนเองมีจุดประสงค์เพียงเท่านี้จริงๆ หากได้รับคำตอบที่พอใจก็จะเดินทางกลับจังหวัดสุโขทัยทันที และหากข้อสงสัยใดที่ตนเองเข้าใจผิด ก็พร้อมจะกราบขอโทษต่อหน้ารัฐมนตรี
นอกจากนี้นายมณฑลยังได้ฝากกราบขอโทษสื่อมวลชนที่ตนเองได้แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงด่าทอ แต่อยากให้เข้าใจว่าตนเองไม่ได้นอนมาแล้ว 3 วัน รู้สึกเครียดและกังวลว่าสิ่งที่ทำนั้นจะไม่บรรลุวัตถุประสงค์ เพราะเกรงว่าถ้านักข่าวมาทำข่าว ก็จะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาจำนวนมาก เกรงว่าจะมีการสกัดกั้นไม่ให้ตนเองไปถึงจุดหมาย
อีกทั้งยังกล่าวทิ้งท้ายว่า อยากจะฝากบอกสื่อทุกสำนักว่า ขอให้ไปรอตนเองที่กรมบัญชีกลางและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หากเมื่อไหร่ที่เขาไปถึงแล้วจะแจ้งให้ผู้สื่อข่าวเข้ามาสัมภาษณ์สอบถามได้อย่างเต็มที่