เมื่อปี 2562 แกนนำอดีตพรรคอนาคตใหม่ นำโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า จัด “แฟลชม็อบ” บริเวณสกายวอล์ค ปทุมวัน หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง ส่งคำร้องยุบพรรคอนาคตใหม่ ถึงศาลรัฐธรรมนูญ เหตุนี้ทำให้มีการยื่นฟ้องต่อศาลว่า เข้าข่ายผิด พ.ร.บ. การชุมชนสาธารณะ พ.ศ. 2558 หรือไม่ และ พ.ร.บ. ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493 หรือไม่ วันนี้ศาลแขวงปทุมวันนัดฟังคำพิพากษา สั่งจำคุกจำเลย 8 คน 4 เดือน ปรับ 10,000 บาท รอลงอาญา 2 ปี
นาย กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ เผย หลังร่วมรับฟังคำพิพากษาของศาลแขวงปทุมวัน พร้อมกับ แกนนำอดีตพรรคอนาคตใหม่ 4 คน ประกอบด้วย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, นายปิยบุตร แสงกนกกุล, น.ส.พรรณิการ์ วานิช, และ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พร้อมด้วย จำเลยอีก 2 คน รวมเป็น 6 คนจากจำเลย 8 คน ในคดีแฟลชม็อบ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2562 โดยศาลสั่งจำคุกจำเลย 8 คน 4 เดือน ปรับ 10,000 บาท รอลงอาญา 2 ปี ตาม พ.ร.บ. การชุมชนสาธารณะ พ.ศ. 2558 และในความผิด พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493 ปรับเป็นเงิน 10,200 บาท
ทนายกฤษฎางค์ ระบุว่า อัยการโจทก์ฟ้องตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะมีความผิดฐานไม่ขอ ไม่แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบขอจัดการชมนุม อีกทั้งยังขัดขวางทางเข้าออกสถานีรถไฟฟ้า ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ขออนุญาตและมีความผิดฐานการชุมนุมสาธารณะในระยะไม่เกิน 150 เมตร จากวังสระปทุม ที่เป็นที่ประทับของเชื้อพระวงศ์
ขณะที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า เห็นด้วยว่าจะต้องต่อสู้กันในบรรทัดฐานในการตัดสิน และข้อเท็จจริง แต่อย่างไรก็จะต้องไปดูรายละเอียดของคำพิพากษา เพื่อเตรียมอุทธรณ์ต่อในหลายเรื่อง
นายพิธา ยังเปรียบเทียบกับที่เคยมีการชุมนุมที่สนามบิน กลับมีโทษปรับเพียง 20,000 บาท และไม่มีโทษทางอาญาแต่อย่างใด จึงได้คุยกับทีมทนายว่าจะไปดูฎีกาย้อนหลังว่า ศาลมีคำตัดสินอย่างไร
นอกจากนี้ยังมีความคาดเคลื่อนในเรื่องของระยะทางในรัศมี 150 เมตร ซึ่งยืนยันว่า จากสกายวอล์คไปจนถึงวังสระปทุมนั้นเกิน 150 เมตรแน่นอน จึงอยากทราบว่า วัดระยะอย่างไรตรงจุดที่แกนนำยืนอยู่ หรือในปลายจุดของการชุมนุม
เมื่อถามว่า แม้ศาลจะมีคำพิพากษาให้รอลงอาญา 2 ปี โดยปกติแล้วจำเลยมักจะไม่สู้ต่อ แต่เหตุใดที่ยังคงอุทธรณ์ต่อนั้น นายพิธา กล่าวว่า เป็นการอุทธรณ์เพื่อให้สังคมเห็นบรรทัดฐานการควบคุมวาระทางสังคมผ่านการชุมนุมอย่างสันติมันเป็นส่วนหนึ่งของประชาธิปไตย แน่นอนว่า หากมีผลกระทบต่อเสรีภาพคนอื่นก็ย่อมมีโทษ แต่ต้องเป็นโทษที่ได้สัดส่วน รวมทั้งข้อเท็จจริงส่วนอื่นที่อาจมีความคลาดเคลื่อน