วันที่ 29 มกราคม 2567 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวถึงขบวนการร้องเรียนและนักแฉว่า ขบวนการดังกล่าว โดยเฉพาะกรณีของ นายศรีสุวรรณ จรรยา กับพวก ตนทราบว่ามีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์มานานแล้ว โดยเฉพาะนายศรีสุวรรณ ทราบมาว่า รับจ้างร้องเรียนค่าตัวตั้งแต่ 50,000 บาท ถึงหลักแสนบาท มีคนใช้บริการเยอะ ซึ่งเพื่อนตนเองก็เคยใช้บริการนายศรีสุวรรณในการมาร้องเรียนหน่วยงานต่างๆ และยังทราบว่าภายในบ้านของนายศรีสุวรรณมีทรัพย์สินของมีค่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท โดยเฉพาะภาพถ่ายภาพวาดและของสะสมวัตถุโบราณ

นายอัจฉริยะ ยังระบุชื่อบุคคลที่ชื่อ นายหมู เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี ที่เป็นคนพาภรรยาของอธิบดีกรมการข้าว นำเงินไปมอบให้กับนายศรีสุวรรณ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 แต่เหตุผลที่นายหมูพาภรรยาของอธิบดีกรมการข้าวไปพบนายศรีสุวรรณ อ้างว่าต้องการให้เรื่องร้องเรียนยุติลง และไม่ทำให้เสื่อมเสียต่อองค์กร และทราบว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์จาก อธิบดีกรมการข้าว จริง

นายอัจฉริยะ ยังกล่าวอีกว่า เหตุผลในการเรียกรับผลประโยชน์ในครั้งนี้เนื่องจาก ในองค์กรภายในองค์กรของกรมการข้าว มีผลประโยชน์มหาศาล กว่าหมื่นล้านอาจทำให้มีความขัดแย้งภายในองค์กร และมีเรื่องการเมืองภายใน ซึ่งมีข้าราชการบางคนที่อาจจะทำผิดกฎหมายและพร้อมที่จะยอมจ่ายเพื่อแลกกับการไม่ถูกร้องเรียนหรือตรวจสอบ จึงทำให้บุคคลเหล่านี้ย่ามใจ แต่อธิบดีกรมการข้าวก็เป็นคนดี คิดว่าตัวเองไม่ได้ทำผิดและลุกขึ้นมาต่อสู้กับขบวนการนี้ และพร้อมที่จะชี้แจงเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร

โดยในรายละเอียดของเรื่องราวที่เกิดขึ้น นายอัจฉริยะจะมีการไลฟ์สดแฉเพิ่มอีกในคืนนี้ ผ่านช่อง โคนันเมืองไทย

อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่เป็นนักร้องเรียนมา 13 ปี มีคดีที่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีกลับกว่า 200 คดีและยืนยันว่า ตนไม่เคยเรียกรับผลประโยชน์จากใคร