คัดลอก URL แล้ว
เจออีก สิงโต 2 ตัว หลุดเดินกลางถนน จ.ชลบุรี

เจออีก สิงโต 2 ตัว หลุดเดินกลางถนน จ.ชลบุรี

กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืช เอาผิดผู้ครอบครองลูกสิงโต ที่เอาขึ้นรถหรูเปิดประทุนขับไปตามถนนพัทยา จ.ชลบุรี ฐานครอบครองสัตว์ป่าควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่ เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน เข้าตรวจสอบบ้านอีกหลังหนึ่ง ในอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี หลังชาวบ้านร้องเรียน พบ สิงโตหลุดออกมากลางถนน สร้างความหวาดกลัว

{เทป-อ่านต่อ}
เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ชลบุรี) และหลายหน่วยงาน ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี หลังมีชาวบ้านร้องเรียน พบ สิงโตขนาดใหญ่ จำนวน 2 ตัว หลุดออกจากบ้าน เดินอยู่กลางถนน ทำให้ชาวบ้านละแวกดังกล่าวกังวลและหวาดกลัว

จากการตรวจสอบ พบว่า บ้านหลังดังกล่าว มีรั้วรอบขอบชิด ภายในบ้าน พบ สิงโต 2 ตัว และสุนัขร็อตไวเลอร์ 2 ตัว ถูกล่ามโซ่อยู่ภายในบ้าน

ทั้งนี้ เจ้าของสิงโต ให้ข้อมูลว่า นำสิงโตทั้ง 2 ตัว มาเลี้ยงตั้งแต่อายุประมาณ 45 วัน จนขณะนี้ ทั้ง 2 ตัว มีอายุ 10 เดือน โดยย้ายจากบ้านที่สัตหีบมาเลี้ยงที่บ้านหลังนี้ได้ 6 เดือนแล้ว

พร้อมยอมรับ สิงโตเคยหลุดออกมาด้านนอก เนื่องจาก ประตูรั้ว ซึ่งเป็นระบบอัตโนมัติเปิดเอง แต่ผู้ดูแลได้รับนำกลับเข้าบ้าน ก่อนจะใช้โซ่ล็อกที่ประตูไว้ เพื่อป้องกันประตูอัตโนมัติเปิดเอง

ส่วนลักษณะนิสัยของสิงโตทั้ง 2 ตัว ไม่มีท่าทีดุร้าย และยอมให้บุคคลอื่นจับตัวได้ แต่ผู้ดูแลอยู่ด้วยเท่านั้น ซึ่งชาวบ้านบางคนก็ชอบ บางคนก็กลัว

ขณะนี้ ได้ประสานไปยังนายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา ) เพื่อตรวจสอบเอกสารว่าแจ้งครอบครองถูกต้องหรือไม่

“กรมอุทยานฯ” เอาผิด เจ้าของสิงโต บนรถหรู

ขณะที่ วันนี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช แถลงถึง ผลการตรวจสอบ กรณีมีการนำลูกสิงโตขึ้นรถหรูขับตามถนนพัทยา ว่า จากการเข้าตรวจสอบที่บ้านพักแห่งหนึ่ง ในตำบลหนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบ ลูกสิงโต อายุประมาณ 6-7 เดือน ตัวเดียวกับที่อยู่ในรถ พร้อมผู้ครอบครองปัจจุบัน คือ น.ส.สว่างจิต

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเอกสาร พบว่า ลูกสิ่งโตตัวดังกล่าว มีการแจ้งครอบครองโดยนายกิตต์ ชาวจังหวัดนครปฐม ก่อนจะมีการโอนย้ายให้ น.ส.สว่างจิต แต่ขั้นตอนการโอนย้ายยังไม่แล้วเสร็จ อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบสถานที่ ดังนั้น น.ส.สว่างจิต จึงมีความผิดตาม พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ฐานครอบครองสัตว์ป่าควบคุมโดยได้รับอนุญาต มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำหรับ กรณีชาวต่างชาติและภรรยา ที่เป็นผู้นำสิงโตขึ้นรถหรู ก็มีการแจ้งดำเนินคดีเช่นกัน ในข้อหาเดียวกัน

ส่วน นายกิตต์ เจ้าของฟาร์ม จะมีการเรียกสอบข้อเท็จจริงต่อไป และลงพื้นที่ตรวจสอบฟาร์ม ซึ่งหลังจากนี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะมีการตรวจเข้มการครอบครองสิงโต ที่ปัจจุบัน มีข้อมูลบุคคลแจ้งครอบครองอยู่ที่ 37 ราย ประมาณ 223 ตัว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง