นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน หัวหน้าชุดคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวนในคดีเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับทรัพย์จากเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์ 140 ล้านบาท (คดีเป้รักผู้การ) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับคณะพนักงานสอบสวนของตำรวจกว่า 7 ชั่วโมงว่า
ซึ่งได้ข้อสรุปว่า จะดำเนินคดีในความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ หรือ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ กับผู้ต้องหาที่เป็นข้าราชการตำรวจทั้งหมด 17 นาย รวมถึงพลตำรวจตรีกัมพล ลีลาประภากรณ์ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และพลเรือนที่ร่วมกับตำรวจทั้ง 17 นายกระทำความผิดในฐานดังกล่าวอีก 4 นาย นอกจากนี้ ยังได้แจ้งข้อกล่าวหาในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญากับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติมอีก 1 ราย เนื่องจากพบพยานหลักฐานเพิ่มเติม
หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกผู้ต้องหาทั้ง 22 คนให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ในวันที่ 12- 13 กุมภาพันธ์นี้ หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนเพื่อมีความเห็นทางคดีก่อนส่งไปยังอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ซึ่งระหว่างนี้ผู้ต้องหามีสิทธิ์อ้างพยานหลักฐานต่างๆ มาประกอบการสอบสวนเพื่อต่อสู้คดีได้ เนื่องจากกระบวนการแจ้งข้อกล่าวหาเป็นการเริ่มต้นสืบสวนคดีเพราะ มีพยานหลักฐานที่บ่งชี้ว่ามีการกระทำเข้าข่ายความผิดจริง แต่ยังไม่มีความเห็นสั่งฟ้อง
ด้านพลตำรวจโทอัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน กล่าวว่า คดีดังกล่าวได้ดำเนินการสอบสวนพยานเสร็จสิ้นไปแล้ว 136 ปาก และยืนยันจะ ดำเนินการสรุปสำนวนส่งไปยังอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ภายใน 60- 90 วันตามกรอบที่วางไว้แต่เดิมอย่างแน่นอน
สำหรับพลตำรวจตรีกัมพล ลีลาประภากรณ์ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ก่อนหน้านี้ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดตามมาตรา 157 ละเว้น หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, มาตรา 149 เรียกหรือยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ชอบ , มาตรา 309 ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำหรือไม่กระทำการใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย ก่อนถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ เพิ่มเติมในวันนี้