นายสุชาติ ชมกลิ่น อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อท สส. 14 คน จากพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมายัง ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เขตตลิ่งชัน เพื่อยื่นฟ้องต่อศาล กรณีที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ แถลงเมื่อวันที่ 10 มกราคม ที่ผ่านมา
โดยมีมติกล่าวหา อดีตรมว. 2 คน และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงแรงงาน 2 คน รวม 4 คน ในความผิด มาตรา 149 และ 157 หลังพบหลักฐานเชื่อมโยง เกี่ยวข้องกับการค่าหักหัวคิว แรงงานที่ไปเก็บผลไม้ป่าที่ ประเทศฟินแลนด์ จำนวน 12,000 คน ระหว่าง ปี 2563-2566 คนละ 3,000 บาท รวมค่าเสียหาย 36 ล้านบาท
ซึ่งการแถลงข่าวในครั้งนั้นทำให้วันที่ 12 มกราคม นายสุชาติ ออกมาโต้กลับดีเอสไอให้นำหลักฐานการเงินออกมาชี้แจงและการที่มาตั้งข้อหาแต่ไม่เคยถูกเรียกสอบปากคำ และการแถลงข่าวของ ดีเอสไอในครั้งนั้น ทำให้ นายสุชาติ ได้รับความเสียหาย
นายสุชาติ เปิดเผยก่อนที่จะขึ้นไปดำเนินการฟ้อง 3 เจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ คือ อธิบดีดีเอสไอ ที่เซ็นเอกสารในขณะนั้น / รักษาการอธิบดีดีเอสไอคนปัจจุบัน / ผอ.กองคดีค้ามนุษย์ ในข้อหา ม.157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และ ม.200 เป็น จนท.รัฐกลั่นแกล้งให้รับโทษทางคดีอาญา รวมถึงอีก 7-8 มาตราที่เกี่ยวข้อง
นายสุชาติ ยังบอกอีกว่า การที่ดีเอสไอ ออกมาแถลงข่าว ส่งผลให้ตนเอง ครอบครัว ได้รับความเสียหาย แม้ว่าครั้งนั้นจะไม่มีการเอ่ยชื่อ แต่ได้พูดว่ารัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งในช่วงปี 2563 ซึ่ง เป็นช่วงเวลาที่ตนดำรงตำแหน่งอยู่ทำให้ประชาชนและหลายคนเข้าใจว่าเป็นตน และการที่ตนมาร้องในครั้งนี้ถือเป็นการรักษาสิทธิ์ และ เชื่อว่าการที่ทดีเอสไอ ออกมาแถลงเป็นการ กลั่นแกล้งทางการเมือง
เนื่องจากคดีสำคัญที่ประชาชนได้รับผลกระทบกลับไม่แถลง แต่มาแถลงคดีตัวเองที่าีการยื่นสำนวนให้ ป.ป.ช.ไปเมื่อปลายเดือนตุลาคมปีที่แล้ว แต่ยังกลับมาแถลงข่าว ทั้งที่เข้าสู่กระบวนการป.ป.ช.ไปแล้ว อีกทั่งก่อนหน้านีั ยังไม่เคยมีการเรียกตนเองและบุคคลที่เกี่ยวข้องไปสอบถาม ทั้งที่ตนก็เป็นข้าราชการระดับสูง
ส่วนเมื่อถามว่าขณะดำรงตำแหน่งเมื่อปี 2563 มีการร้องเรียนเรื่องการเรียกรับสินบนในลักษณะที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ นายสุชาติ ยอมรับว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจริง และได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงไปแล้ว เป็นบริษัทเอกชนกับเอกชน ซึ่งมองว่าถ้าข้าราชการทำผมจะตั้งคณะกรรมการสอบทำไม
ส่วนเอกสารหลักฐานจำนวนหลายร้อยแผ่น มายื่นต่อศาล เพราะมีข้าราชการดีเอสไอหลายคนนำข้อมูลมาให้ตนเอง ซึ่งหลังจากนี้ตนเองจะอภิปรายเรื่องในกระบวนการยุติธรรมในสภา แล้วท้ามาดูกันว่าผมมีหลักฐานมากแค่ไหน
นอกจากนี้ยังฝากถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ควบคุมดูแลหน่วยงานกรมสอบสวนคดีพิเศษขอให้หน่วยงานดังกล่าวให้ความเป็นธรรมกับประชาชนซึ่งวันนี้ที่ตนเองมายื่นเรื่องก็มาในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ที่ปกป้องสิทธิ์เช่นกัน