คัดลอก URL แล้ว
เร่งพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล เหยื่อโรงงานพลุระเบิด

เร่งพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล เหยื่อโรงงานพลุระเบิด

หลังจากเจ้าหน้าที่ ทำการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล นานกว่า 9 ชั่วโมง ช่วงเย็นวานนี้ 18 ม.ค. เจ้าหน้าที่ได้ประกาศรายชื่อผู้เสียชีวิต ที่สามารถให้ญาตินำเอกสารยืนยัน มารับร่างกลับไปบำเพ็ญกุศลได้ รวมทั้งหมด 8 ร่าง โดยหลังประกาศรายชื่อ กู้ภัยได้นำรถมารอรับร่าง เพื่อนำไปส่งยังวัดต่างๆ ส่วนอีก 15 ร่าง อยู่ระหว่างการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล

หนึ่งในญาติผู้เสียชีวิต เล่าทั้งน้ำตาว่า ลูกสาวเป็น แม่เลี้ยงเดี่ยว กำลังตกงาน มีลูกชายวัย 10 ขวบ จึงไปหางานทำที่โรงงานแห่งนี้ ทีแรกก็ห้ามลูกสาวแล้ว เพราะว่าอันตราย แต่ลูกสาวไม่ฟัง เพราะต้องการทำงานหาเงินเลี้ยงลูก

ด้านผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 เปิดเผยหลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ตั้งโรงงานประกอบพลุ ว่า มีการกำหนดแบบจำลองพื้นที่โรงงาน 1 ไร่ที่เกิดการระเบิด เป็นโซน ได้แก่ โรงที่ผลิตพลุ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่า เป็นจุดที่เริ่มเสียดสี จนเกิดการระเบิดก่อน เนื่องจากพบหลุมขนาดเล็ก จำนวน 22 หลุม

จากนั้น สะเก็ดไฟอาจกระเด็นไปที่โซนที่คาดว่า เป็นโรงเก็บดินปืน กำมะถัน และสารเคมีอื่นๆ ที่เป็นตัว จุดระเบิด ทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ ขนาด 5 คูณ 3 เมตร ลึก 1 เมตร โดยแรงระเบิดจากจุดนี้ ทำให้ร่างผู้เสียชีวิตกระเด็นไปตกในที่นาและคูน้ำ

รองผู้ว่าฯเปิดเงื่อนไขขอใบอนุญาต

นายดรณ์ สมิตะเกษตริน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ชี้แจงกรณีการขอใบอนุญาตตั้งโรงงาน ของโรงงานพลุ ว่า เป็นเรื่องของกรมการปกครอง ที่กฎหมายระบุว่า จะต้องมีการตรวจสอบสถานที่ที่ขอใบอนุญาต ทั้งลักษณะโครงสร้าง และความปลอดภัย เมื่อผู้ประกอบการปฎิบัติถูกต้องตามกฏหมาย ก็จำเป็นจะต้องอนุญาต แม้จะเคยเกิดเหตุระเบิดมาแล้ว เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 65

ผบ.ตร.สั่งเร่งหาสาเหตุโรงงานพลุระเบิด

ขณะที่ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สิ่งที่ต้องคำนึงนอกจากการนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากพื้นที่แล้ว ยังต้องรักษาสภาพที่เกิดเหตุด้วย เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปตรวจสอบสาเหตุการเกิดระเบิดให้ได้มากที่สุด เนื่องจากไม่มีพยานบุคคล ที่จะสามารถเล่าเหตุการณ์ได้ ซึ่งในส่วนของคดี จะเนินการ อย่างเต็มที่ ผิดก็ว่าไปตามผิด ส่วนการเยียวยาขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมกำลังช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิตแล้ว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง