ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองบูรณาการเปิดปฏิบัติการบุกทลายบ่อนใหญ่ใจกลางเมืองนครศรีธรรมราช พบของกลางเงินสดกว่า 1,000,000 บาท นักพนันมากกว่า 100 คน เน้นย้ำ เสริมสร้างความผาสุก และรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง

วันนี้ (11 ม.ค. 67) เวลา 16.00 น. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดยนายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สนธิกำลังร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดนครศรีธรรมราช นำกำลังพนักงานฝ่ายปกครอง และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน บุกทลายบ่อนการพนันขนาดใหญ่ ถนนเทวราช อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช

นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยถึงที่มาของการปฏิบัติการในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่า ในตัวเมืองนครศรีธรรมราชมีบ่อนการพนันขนาดใหญ่เปิดให้นักพนันเข้ามาเสี่ยงโชคเป็นเวลานาน แต่ละวันจะมีนักพนันกว่า 200 คนเข้าไปเล่น มีรถยนต์กว่า 50 คัน/วัน และหากนับรวมรถจักรยานยนต์ร่วมด้วยแล้วจะมีรถมากกว่า 100 คัน โดยบ่อนแห่งนี้เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

“กรมการปกครองจึงได้ส่งสายลับพนักงานฝ่ายปกครองลงพื้นที่ตรวจสอบบ่อนการพนันดังกล่าว พบว่าบ่อนการพนันแห่งนี้มีการวางระบบป้องกันการถูกจับกุมและอำพรางสายตาของเจ้าหน้าที่ไว้อย่างแน่นหนา โดยจะมีคนคอยเฝ้าต้นทางกว่า 10 จุด หากมีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบก็จะส่งสัญญาณเข้าไปภายในบ่อนให้เจ้ามือและนักพนันได้หลบหนีไปทางช่องประตูด้านหลังบ่อน และบ่อนแห่งนี้ยังได้สร้างกำแพงสูงประมาณ 2.5 เมตร ล้อมพื้นที่โดยรอบของบ่อน ซึ่งจะบดบังและอำพรางสายตาของเจ้าหน้าที่ได้เป็นอย่างดี และเมื่อเข้าไปภายในบ่อนยังพบว่ามีลานจอดรถที่กว้างขวางจอดรถได้หลายร้อยคัน พบรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของนักพนันจอดอยู่เรียงราย มีเด็กคอยจัดรถเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักพนัน ภายในพื้นที่ของบ่อนพบอาคารหลังใหญ่ซึ่งมีการก่อสร้างขึ้นมาใหม่มีขนาดที่กว้างขวางสามารถจุนักพนันได้กว่า 200 คน ด้านในมีการติดเครื่องปรับอากาศ และมีร้านค้าคอยอำนวยความสะดวกให้แก่นักพนันอีกด้วย ภายในมีการเปิดให้มีการเล่นพนันโปปั่น และไพ่สามใบ (ไพ่ 10 แต้ม) พบนักพนันกว่า 100 คน กิน เล่น ครบจบภายในบ่อน และยังมีการตั้งโต๊ะไว้แลกเงิน วางเงินสดกองโตโชว์หรา มีเลขบัญชีรับโอนแลกเงินเพื่ออำนวยความสะดวกให้นักพนันทั้งหลายให้เล่นพนันได้จนหมดเนื้อหมดตัว” นายอรรษิษฐ์ฯ กล่าว

นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ ชุดปฏิบัติการซึ่งเป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ชุดปฏิบัติการที่ทำการปกครองจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ทำการปกครองอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ลงพื้นที่บริเวณบ่อนดังกล่าว พบรถยนต์ 40 คัน รถจักรยานต์ 77 คัน และได้เข้าทำการตรวจค้น โดยสามารถจับกุมนักพนันและเจ้ามือ รวมทั้งสิ้น 127 คน โดยวงไพ่ 85 คน เป็นเจ้ามือ 3 คน นักพนัน 82 คน พร้อมเงินที่ตรวจยึดได้ 164,675 บาท และวงโปปั่น 42 คน เป็นเจ้ามือ 4 คน นักพนัน 38 คน และเงินที่ตรวจยึดได้ 114,330 บาท รวมเงินที่ตรวจยึดได้ในบ่อน 279,005 บาท นอกจากนี้ ยังได้ตรวจค้นรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์สีขาว พบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง เงินสด 800,000 บาท รวมทั้งสิ้น 1,079,005 บาท โดยพนักงานฝ่ายปกครองชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ถูกจับกุมและของกลางทั้งหมดไปทำบันทึกจับกุม ณ ที่ทำการปกครองอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันลักลอบจัดให้มีหรือเข้าเล่นหรือเข้าพนันโดยผิดกฎหมาย ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราช พร้อมทั้งแจ้งดำเนินการอายัดบัญชี และประสานสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินตรวจสอบเส้นทางการเงินของเจ้ามือต่อไป

ด้านนายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง กล่าวว่า บ่อนแห่งนี้เปิดเล่นพนันใจกลางชุมชน เย้ยเจ้าหน้าที่ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ซึ่งกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย โดยชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง จะดำเนินการสืบสวนปราบปรามเพื่อทำการจับกุมบ่อนการพนันที่ลักลอบเปิดโดยผิดกฎหมายอย่างเต็มความสามารถ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการจัดระเบียบสังคมของกระทรวงมหาดไทย โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำว่า “หน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย คือ มุ่งเน้นการจัดระเบียบสังคมเพื่อสร้างสังคมให้สงบสุข บ้านเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดอบายมุข ประชาชนมีความมั่นคงปลอดภัย สิ่งใดที่ขัดกับความมุ่งหมายนี้ก็คือสิ่งที่เราต้องใช้กลไกของรัฐในการกำจัดให้สิ้นไป”

“หากประชาชนมีเบาะแสบ่อนการพนันหรือแหล่งอบายมุขสร้างความเดือดร้อนในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่ตำรวจ หรือฝ่ายปกครองในท้องที่ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบยังไม่มีการปฏิบัติ สามารถร้องเรียนได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย โทร. 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง” นายรณรงค์ฯ กล่าวเพิ่มเติม