วันนี้ (11 มกราคม 2567) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวัง 3 โรคระบาด ได้เเก่ โรคโควิด 19 โรคไข้หวัดใหญ่ และไข้เลือดออก โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้วิเคราะห์ข้อมูล ปัจจัยแวดล้อมที่เกิดขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเกิดการระบาดและเป็นโรคที่ต้องเฝ้าระวังในช่วงปี 2567 นี้
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือและเฝ้าระวังโรคตามฤดูกาลที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน
โดยข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เน้นย้ำให้ประชาชนเฝ้าระวังเป็นพิเศษสำหรับการระบาดของ 3 โรค ดังนี้
- 1. โรคโควิด 19 เป็นโรคที่ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีการกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง ต้องเฝ้าระวังในกลุ่มเปราะบาง 608 เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไตวายเรื้อรัง โรคอ้วน มะเร็ง และหญิงตั้งครรภ์ ที่ต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย ปีละ 1 ครั้ง หากไปในสถานที่เสี่ยงให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ โดยปี 2566 ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยทั้งหมด 652,868 ราย เสียชีวิต 848 ราย
- 2. โรคไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคระบบทางเดินหายใจเช่นเดียวกันกับโรคโควิด 19 ที่มีความรุนแรงสามารถทำให้เสียชีวิตได้เช่นกัน ซึ่งประชาชนสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่และวัคซีนโควิดได้พร้อมกันปีละ 1 ครั้ง โดยข้อมูลสถานการณ์ในปี 2566 พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ 460,325 ราย เสียชีวิต 29 ราย
- 3. โรคไข้เลือดออก มียุงลายเป็นพาหะ โดยในปี 2566 พบผู้ป่วยทั้งหมด 156,097 ราย เสียชีวิต 187 ราย ดังนั้นประชาชนทุกคนต้องช่วยกันเก็บบ้าน เก็บขยะ เก็บภาชนะให้สะอาดเรียบร้อย ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลาย
ข้อมูลสถานการณ์ในปีที่ผ่านมาทำให้ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด วางมาตรการป้องกัน ประเมิน และลดความรุนแรง นอกจากนี้ จากข้อมูลกรมควบคุมโรค ได้ระบุให้ประชาชนเฝ้าระวังโรคที่มีโอกาสเกิดการระบาด และส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ประกอบด้วย 12 โรค ดังนี้
1.โรคมือเท้าปาก 2.โรคหัด 3.โรคฝีดาษวานร 4.โรคเมลิออยโดสิส (ไข้ดิน) 5.โรคไข้ฉี่หนู 6.โรคไข้หูดับ 7.โรคไวรัสซิกา 8.โรคชิคุนกุนยา (ไข้ปวดข้อยุงลาย) 9.โรคซิฟิลิส 10.โรคหนองใน 11.โรคเอดส์ และ 12.โรควัณโรค ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นของโรคระบาดหรือภัยสุขภาพ สามารถโทรสอบถามได้ที่สายด่วน 1422 ของกรมควบคุมโรค
“นายกรัฐมนตรีห่วงใยสุขภาพเเละความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นสำคัญ โดยย้ำเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวัง และคอยสังเกตอาการป่วยของตนเอง หากไปในสถานที่เสี่ยงให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ และต้องได้รับวัคซีน ปีละ 1 เข็ม ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก รวมทั้งได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เตรียมพร้อมรับมือ เฝ้าระวังโรคระบาดอย่างรัดกุมด้วย เพื่อสุขภาพ และคุณภาพชีวิตประชาชน”
นายชัย กล่าว