ทนายตั้ม เผย เคลียร์ใจชูวิทย์ กลับมาเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน ส่วนคดีแตงโม เตือน ทนายเดชา ระวังแม่แตงโมไว้ กลัวอาจเจ็บซ้ำแบบเดิม พร้อมฝากถึงแม่แตงโม อย่าคิดถึงแต่เงิน
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เปิดเผยถึงกรณีที่มีการเคลียร์ใจกับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ว่า จากที่เคยเป็นคู่กรณีต่างฝ่ายต่างเปิดโปงข้อมูลแฉกันจนถึงขั้นยื่นฟ้องกันหลายคดี และมีการทะเลาะกันจนเรียกได่ว่าไม่เผาผี แต่ล่าสุดเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา นายชูวิทย์ใช้ได้โทรศัพท์ที่ไม่โชว์เบอร์โทรเข้ามา จึงได้มีการพูดคุยกัน ซึ่งนายชูวิทย์ได้บอกว่าทราบความจริงเรื่องที่กล่าวหาตนว่าทำเว็บพนันและเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาแล้วว่าเรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง และตัวนายชูวิทย์เองก็อยากจากไปโดยไม่มีอะไรติดค้าง จึงต้องการโทรมาเพื่อขอโทษตนและขอให้จบเรื่องกันไป ซึ่งตนและนายชูวิทย์ได้มีการพูดคุยปรับความเข้าใจกันและตกลงกันว่าต่างฝ่ายต่างจะถอนฟ้องกันในทุกคดี ตนยังกล่าวขอบคุณนายชูวิทย์ที่ให้เกียรติโทรมาขอโทษตนก่อนและได้กล่าวขอโทษนายชูวิทย์เช่นกัน และตอนนี้ก็ได้ดำเนินการถอนฟ้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนอกจากจะเคลียร์เรื่องคดีแล้ว ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวก็ได้กลับมาเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันเหมือนเดิมด้วย
ทนายษิทรา กล่าวว่า ส่วนตัวรู้สึกโล่ง เพราะตอนที่ตนถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน ยอมรับว่าตนโดนหนักมาก ถูกสังคมมองไม่ดี แต่เมื่อความจริงถูกเปิดเผยแล้ว สังคมก็เริ่มเข้าใจตนมากขึ้น และมีบางคนได้ส่งข้อความมาขอโทษที่เข้าใจผิดด้วย หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นก็ได้ข้อคิดหลายอย่าง การขัดแย้งกับนายชูวิทย์เกิดจากบุคคลที่3 คือเพจต่างๆที่คอยปลุกปั่น หลังจากนี้หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก ก็จะต้องมีการพูดคุยกันก่อน เพื่อไม่ให้ใครใช้เป็นเครื่องมือได้อีก
ส่วนกรณีของแม่แตงโมที่ออกมาแถลงข่าวขอให้ทนายเดชากลับมาเป็นทนายความในคดีให้นั้น นายษิทรา กล่าวว่า แม่แตงโมพลาดตั้งแต่ไม่ให้ทนายเดชาดูแลคดีให้แล้ว เพราะที่ผ่านมาทนายเดชามีความจริงใจ ช่วยเหลือทุกอย่าง แต่อาจจะเกิดการเข้าใจผิดกันขึ้นจึงแยกทางกัน ซึ่งตนมองว่าคนที่รักแม่อย่างใจจริงมีแต่ทนายเดชาเท่านั้น ดังนั้นการที่แม่ขอให้ทนายเดชากลับมาดูแลคดีให้เหมือนเดิมนั้น เป็นการตัดสินใจที่ถูกแล้ว แต่อย่างไรก็ตามตนก็อยากให้ทนายเดชาเผื่อใจไว้บ้าง เพราะตนก็ไม่มั่นใจว่าที่ทนายเดชายอมกลับไปดูแลคดีให้เป็นการคิดถูกหรือไม่ เพราะแม่เป็นคนที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ กลัวว่าทนายเดชาจะเจ็บแบบเดิมอีก
ส่วนที่แม่ของแตงโมกอดคอและหอมแก้มกับแซน วิศาพัช นั้น ส่วนตัวมองว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะแซนก็เป็นหนึ่งในคนที่อยู่บนเรือในวันที่แตงโมเสียชีวิต และไม่เหมาะสมที่จะเรียกคนบนเรือว่าลูกด้วย ซึ่งตนอยากถามว่าแม่ทำเพื่อต้องการให้คนเหล่านั้นจ่ายเงินให้เท่านั้นใช่หรือไม่ และไม่ต้องการเรียกความยุติธรรมให้ลูกแล้วหรือไม่
ส่วนกรณีที่แซนยังคงยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้แตงโมเสียชีวิตนั้น มองว่า หากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจริงตำรวจจะแจ้งข้อหาได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทุกคนยังมีข้อสงสัยในคดีนี้ว่าแตงโมเสียชีวิตได้อย่างไร
พร้อมฝากถึงแม่ของแตงโมว่าให้คิดถึงลูกเยอะๆ คิดถึงความรักที่แตงโมมีให้แม่ และความรักที่แม่ควรจะมีให้ลูกด้วย อย่าคิดถึงแต่เรื่องเงินอย่างเดียว
นอกจากนี้ยังฝากถึงลุงพลผู้ต้องหาในคดีของน้องชมพู่ว่า ตอนนี้ศาลมีคำพิพากษาออกมาแล้วว่าลุงพลผู้กระทำความผิด และหลายคนก็ทราบความจริงแล้วว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร ซึ่งคนที่เป็นผู้ต้องหาหรือคนที่ศาลตัดสินให้เป็นจำเลยไม่มีใครออกมาทำอย่างที่ลุงพลทำอยู่ และไม่ไปหารายได้จากการเสียชีวิตของใคร แต่เมื่อมีรายได้แล้วก็ควรนำเงินไปเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย พร้อมฝากไปถึงแฟนคลับของลุงพลด้วยว่าควรตาสว่างได้แล้ว