ชาวบ้านนับร้อยคนมาชุมชนรวมตัวกัน ภายในวัดแห่งหนึ่ง ที่เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อเจรจาหารือกับรักษาการเจ้าอาวาสวัด เรียกร้องให้ทางวัดลดค่าจัดพิธีศพที่ให้ถูกลง เพราะได้รับความเดือดร้อนจากค่าใช่จ่ายในการทำพิธีศพที่แพงเกินไป และยังมีพฤติกรรมและคำพูดของสัปเหร่อที่ยังไม่เหมาะสม เลือกปฏิบัติระหว่างคนมีเงินและไม่มีเงินด้วย
สิ่งที่ชาวบ้านร้องเรียนคือ ค่าประกอบพิธีศพแต่ละครั้งต้องจ่ายให้กับวัดกว่า 27,000 บาท แบ่งเป็นค่าศาลา 15,000 บาท ค่าดอกไม้ตั้งหน้าศพ 3,500 บาท ค่าทำพิธี 1,500 บาท ค่าสวด 1,500 บาท ค่าเผา 2,400 บาท ค่าน้ำมัน 1,600 บาท
นอกจากนี้ยังมีค่าเก็บกระดูก 600 บาท และบางคนต้องจ่ายค่าทำความสะอาดศาลาอีก 500 บาทด้วย ทำให้ชาวบ้านที่ครอบครอบมีฐานะยากจนได้รับความเดือดร้อน บางคนต้องกู้หนี้นอกระบบมาเป็นค่าทำพิธีศพ
อีกทั้งยังพบพฤติกรรมของสัปเหร่อที่เลือกปฏิบัติระหว่างคนจนกับคนรวยที่ไม่เหมือนกัน ไม่เปิดศาลาให้ตั้งศพ พูดจาไม่สุภาพถึงขั้นด่าชาวบ้านไม่มีเงินแล้วเอามาเผาทำไม บางศพสัปเหร่อไม่พอใจ ไม่อาบน้ำศพให้และไม่เผาให้ด้วย ที่สำคัญต้องการให้คณะกรรมการวัดชี้แจงเรื่องค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น รวมถึงแจกแจงรายละเอียดของราคาต่าง ๆ
หลังจากที่มีการหารือกันระหว่างตัวแทนชาวบ้านกับวัด ได้ข้อสรุปจะมีการตั้งคณะกรรมการวัดชุดใหม่ขึ้นมา และจะออกกฎระเบียบเรื่องค่าใช้จ่ายในการทำพิธีศพให้น้อยลงกว่าเดิม โดยเฉพาะกับคนที่ยากไร้ควรจะมีการช่วยเหลือแยกออกไปจากคนที่พอมีฐานะ และให้สัปเหร่อคนเดิมหยุดทำหน้าที่และออกไปจากวัด
ขณะที่รักษาการเจ้าอาวาสวัดปลักกริมใน ชี้แจงว่า เรื่องค่าใช้จ่ายการทำพิธีศพคณะกรรมการวัดเป็นคนจัดการทั้งหมด พระไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนเรื่องสัปเหร่อเป็นพฤติกรรมส่วนตัว
ก่อนหน้านี้ปัญหาเรื่องค่าทำศพ ก็กลายเป็นดราม่า เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก โพสต์ข้อความ “ไม่มีเงิน=ห้ามตาย พร้อมกับรายละเอียดค่าทำพิธีศพ 3 คืน รวมวันเผา เป็นเงิน 25,050 บาท รายการนี้ยังไม่รวม ค่าอาหารเลี้ยงแขก เงินใส่ซองพระสวด ถ้ารวมแล้วงานศพงานนึงต้องใช้เงินประมาณ 4-5 หมื่นบาทครับ #ใครที่จะเสียชีวิตโปรดอย่าเพิ่งเสียชีวิตนะครับถ้ายังไม่มีตังค์ “
ด้านพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ให้ข้อคิดว่า หากเป็นผู้ที่ฐานะไม่ดี ก็สามารถเลือกวัดที่เป็นศาสนาสงเคราะห์ จัดงานศพให้ฟรีได้ ส่วนวัดก็ควรจะลดค่าจัดงานลงสำหรับคนยากจน อย่าซ้ำเติมกันไม่ให้เป็นทุกข์กับคนที่ยังอยู่ ในการกู้หนี้ยืมสิน
เรื่องนี้ทางออกคือต้องพูดคุยหาแนวทางที่รับได้ของทั้ง 2 ฝ่าย เพราะต่างฝ่ายต่างก็น่าเห็นใจ วัดก็มีค่าใช้จ่าย ค่าน้ำ ไฟ ค่าทำความสะอาด ค่าแรงคนมาช่วยงาน แต่กับคนที่ไม่มีเงินจริง ๆ ก็ควรลดค่าใช้จ่ายให้กับชาวบ้านได้ บางคอมเม้นต์บอกว่าค่าก่อสร้างกุฎิ ศาลา โบสต์ หรือแม้แต่เมรุ ยังมาจากเงินบริจาคของชาวบ้าน ดังนั้นไม่ควรมีค่าใช้จ่ายสูง เพื่อไม่ให้ถูกมองเป็นเรื่องธุรกิจทางศาสนา