คัดลอก URL แล้ว
แฟนเพลงส่งกำลังใจ “วิรดา วงศ์เทวัญ” ป่วยไข้เลือดออก

แฟนเพลงส่งกำลังใจ “วิรดา วงศ์เทวัญ” ป่วยไข้เลือดออก

ในรอบปีที่ผ่านมา โรคไข้เลือดออกมีผู้ป่วยมากกว่าปีที่ผ่านๆมา เพราะสถานการณ์โลกร้อนขึ้น และโรคไข้เลือดออกสามารถพบได้ในผู้ใหญ่ ไม่ใช่แค่ในเด็กเท่านั้น


ขณะที่ กุ้ง “สุธิราช วงศ์เทวัญ” นักร้องชื่อดัง แจ้งข่าวน้องสาว ป่วยไข้เลือดออก โดยแฟนเพลงต่างร่วมส่งกำลังใจ

หลังจากสื่อโซเชียลได้เผยแพร่ ต้องความของ กุ้ง “สุธิราช วงศ์เทวัญ” นักร้องชื่อดัง ที่โพสต์แจ้งข่าวผ่านเฟซบุ๊ก ว่า ขณะนี้ วิ “ภิญญ์วดี ภูวรุ่งเรืองหิรัญ” หรือวิรดา วงศ์เทวัญ กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เนื่องจากป่วยไข้เลือดออกชนิดรุนแรง อาการอยู่ในขั้นวิกฤต และยังไม่รู้สึกตัว พร้อมขอกำลังใจจากแฟนเพลง ให้ช่วยเป็นกำลังใจให้ครอบครัว
ด้วย

สำหรับการข้อมูลการระบาดของโรคไข้เลือดออกในระยะนี้ กลับพบว่า มีในผู้ใหญ่มากขึ้น และมีโอกาสเสี่ยงต่อการเสียชีวิต โดยกระทรวงสาธารณสุข สรุปสถานการณ์โรคไข้เลือดออกปีที่ผ่านมา มีรายงานผู้ป่วย รวม 147,412 คน อัตราป่วย 222.91 ต่อประชากรแสนคน

ผู้ป่วยสูงกว่าปีที่ผ่านมา 3.4 เท่า กระจายทั่วประเทศ และพบผู้ป่วยเสียชีวิตที่ได้รับการตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ รวม 174 คน จาก 57 จังหวัด อัตราป่วยตาย ร้อยละ 0.12

โดยอัตราป่วยตายสูงสุดในกลุ่มอายุ 25 – 34 ปี ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง และภาวะอ้วน ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการในผู้เสียชีวิตพบไวรัสเดงกีทั้ง 4 สายพันธุ์ โดยพบ DENV-2 มากที่สุด รองลงมา คือ DENV-1 DENV-3 และ DENV-4

อาการของโรคที่ต้องสังเกต ระยะแรก มีไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีผื่น เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน แต่ผู้ใหญ่บางราย ก็ไม่มีอาการอย่างที่ว่า ทำให้อาจเข้าสู่ระยะวิกฤต คือ จะมีอาการเพลียและซึม ปัสสาวะน้อย ปวดท้อง เลือดกำเดาไหล อาเจียนมีเลือดปน หรือ อุจจาระสีดำ ระยะนี้ไข้ลดลง มือเท้าเย็น ความดันต่ำ ทำให้อาจช็อกเสียชีวิตได้

ก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ออกมาเตือนภัยคุกคามจากโรคไข้เลือดออก ซึ่งได้แพร่กระจายสู่หลายประเทศที่ไม่เคยตรวจพบผู้ป่วยมาก่อน โดยปี 2566 ทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกกว่า 5 ล้านราย และผู้ป่วยเสียชีวิตจากโรคนี้

มากกว่า 5,000 คนแล้ว

ด้านนายแพทย์จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา อธิบายว่า ไข้เลือดออกรักษาไม่ยาก แต่ต้องให้ทันเวลา และดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะไม่มียารักษาโดยตรง ต้องดูแลแบบประคับประคอง ดูความเข้มข้นของเลือดตลอดเวลา ตอนช่วงที่ไข้จะลง ซึ่ง 3 วันแรก ส่วนใหญ่ไข้จะขึ้น เมื่อถึงวันที่ไข้จะลงอาจมีอาการช็อกได้ ต้องดูแลใกล้ชิด และเมื่อผู้ป่วยไข้เลือดออกเป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน ก็จะมีความยุ่งยากในการรักษามากกว่า

อาการไข้เลือดออกต่างจากไข้หวัด ตรงที่มีอาการคล้ายๆคลื่นไส้ ปวดกระดูก ที่สำคัญคนที่ป่วยไข้เลือดออก ห้ามกินยาแอสไพรินและไอบรูโพรเฟน เนื่องจากเป็นกลุ่มยาที่กระตุ้นให้เกิดเลือดออกได้ง่ายขึ้นและเสียชีวิตได้ และโรคไข้เลือดออกสามารถพบได้ในผู้ใหญ่ ไม่ใช่แค่ในเด็กเท่านั้น


ข่าวที่เกี่ยวข้อง