คัดลอก URL แล้ว
นายกฯ สั่งทบทวน ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ชี้โลกเปลี่ยนเร็วขึ้น

นายกฯ สั่งทบทวน ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ชี้โลกเปลี่ยนเร็วขึ้น

วันนี้ (27 ธันวาคม 2566) เวลา 09.30 น. ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 2/2566 ร่วมกับนายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และผู้ที่เกี่ยวข้อง นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญของการประชุมดังนี้

นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการในที่ประชุมเพื่อให้ยุทธศาสตร์ชาติสามารถเป็นเครื่องมือในการพัฒนาได้อย่างเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับบริบทการพัฒนาที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน อาทิ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ cloud computing พลังงานสะอาด ซึ่งจะส่งผลต่อการเคลื่อนย้ายแรงงานคุณภาพ รวมทั้งภูมิรัฐศาสตร์

จึงขอให้คณะกรรมการร่วมกันคิดรูปแบบวิธีการดำเนินงานและการขับเคลื่อนประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติที่เหมาะสม โดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ควรดำเนินการทบทวนปรับปรุงยุทธศาสตร์ชาติให้ทันกับบริบทการพัฒนาโลกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ยุทธศาสตร์ชาติเป็นกรอบแนวทางการพัฒนาประเทศที่มีความยืดหยุ่น ทันสมัย และมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเพื่อให้ประชากรรุ่นใหม่ที่จะเป็นกำลังการพัฒนาประเทศที่สำคัญได้เป็นส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเทศต่อไป

“การวางยุทธศาสตร์ถือเป็นการวางกรอบโครงยุทธศาสตร์ที่ให้รัฐบาลและคนทั้งประเทศได้รับรู้และทำงานไปในทิศทางประเทศไทยในอนาคต ที่เราอยากให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน และเพื่อให้รู้ว่าจะไปสู่ภาพนั้นจะต้องทำอย่างไรบ้าง ผมคิดว่าการมียุทธศาสตร์ มีกลยุทธ์ในการทำงานเป็นเรื่องที่ดี แต่ผมไม่เชื่อกับการวางแผนแล้วล็อกตัวเองไว้ยาวนานเกินไป ไม่มีใครที่วางแผนไว้ยาวนานถึง 20 ปี เพราะแม้กระทั่ง 5 ปียังทำได้ยาก โลกนี้เปลี่ยนไปแล้วและจะเปลี่ยนเร็วขึ้นเรื่อย ๆ จากเทคโนโลยีสมัยใหม่

ซึ่งอาจจะเมื่อ 6 เดือนที่แล้วหรือ 10 เดือนที่แล้วเราไม่เคยได้ยิน Chat GPT เรื่อง Artificial Intelligence เรื่องของเทคโนโลยี หรือแม้กระทั่งพลังงานสะอาดรูปแบบใหม่ ๆ ที่จะมากำหนดทิศทางโลก เรื่องพลังงานสะอาดเป็นเรื่องที่เวลาเดินทางไปเจรจากับต่างประเทศจะเป็นเรื่องแรกที่หยิบยกมาพูดคุยกัน เป็นเรื่องที่โลกเราเปลี่ยนไปมาก โดยเรื่องเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นของ war of talent ที่ทุกบริษัท ทุกรัฐบาล ทุกประเทศทั่วโลกดึงดูดคนที่มีความสามารถไปทำงาน และเป็นเรื่องของภูมิรัฐศาสตร์ ประเทศไทยต้องคอยปรับยุทธศาสตร์ให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงเวลาด้วย

ฉะนั้น ผมอยากให้แผนยุทธศาสตร์ต้องมีความคล่องตัว ให้มีการทบทวนและมีความยืดหยุ่นไปตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของโลก โดยขอฝากให้ที่ประชุมช่วยกันพิจารณารูปแบบการดำเนินงานที่เหมาะสม จะทำอย่างไรให้ยุทธศาสตร์เกิดประโยชน์ได้จริง ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของโลกในวันนี้และไม่ปิดกั้นอนาคตของประเทศชาติ เพื่อให้การพัฒนาของลูกหลานพวกเราในอีก 20 ปีข้างหน้าไม่ถูกผูกมัดด้วยความคิดของคนรุ่นเรา ให้พวกเขาได้มีโอกาสปรับเข้ากับคนรุ่นใหม่ที่จะเติบโตขึ้น ให้มีโอกาสที่จะเลือกทิศทางในการวางยุทธศาสตร์และก้าวไปพร้อม ๆ กับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป”

นายกรัฐมนตรี กล่าว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง