นายกรัฐมนตรี อวยพรปีใหม่คนไทย ขอให้ประชาชนพักผ่อนเต็มที่ เดินทางปลอดภัย คิดสิ่งใดสมใจหวัง เผย ผลมติ ครม. กระทรวงเกษตรฯ เตรียมแจกข้าวพันธุ์ใหม่-ก.คลัง ขยายเวลาสิทธิประโยชน์ทางภาษี ช่วยเด็กเข้าระบบการศึกษา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้น โดยในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ รัฐบาลและหน่วยงานรัฐมีของขวัญปีใหม่มอบให้กับประชาชน โดยได้ดำเนินการในโครงการทั้งหมด 255 โครงการ โดยมอบหมายให้ทางโฆษกรัฐบาลแถลงรายละเอียดให้กับพี่น้องประชาชนได้รับทราบ

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึง สภาพอากาศที่แปรปรวนในประเทศโดยได้สั่งการให้กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศแจ้งเตือนกับประชาชน โดยเฉพาะในจังหวัดทางภาคใต้ที่เกิดมรสุมในช่วงนี้ และได้สั่งการเพิ่มเติมว่า แม้ว่าสภาพอากาศจะกลับคืนสู่สภาวะปกติแล้วก็ตาม แต่ช่วงนี้เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประเทศไทยเป็นจำนวนมาก จึงต้องมีการกำชับให้ดูแลในเรื่องปริมาณปริมาณนักท่องเที่ยวที่อยู่บนเรือ เน้นเรื่องเสื้อชูชีพและความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน ซึ่งต้องไม่ประมาท

ขณะเดียวกันเมื่อช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา มีประเด็นในเรื่องของกำลังการผลิตข้าวต่อไร่ในประเทศไทย มีจำนวนผลผลิตค่อนข้างต่ำ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมเมล็ดข้าวพันธุ์ใหม่ที่มีคุณภาพดี แจกจ่ายให้กับเกษตรกร ให้ทันก่อนช่วงปลูกข้าวนาปีในช่วงปีหน้า ขณะเดียวกันกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่ยังไม่มีมีการชี้แจงออกมา แต่เบื้องต้นทราบว่าในช่วงเดือนหน้า จะมีการประกาศข้าวพันธุ์ใหม่อีกหลายสายพันธุ์ โดยจะใช้เกษตรแม่นยำ ในการใช้ปุ๋ยให้ตรงสูตรกับพันธุ์ข้าวเพื่อเพิ่มผลผลิตในระยะสั้น พร้อมได้กำชับให้มีการแถลงให้มากกว่านี้เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบและสบายใจ ว่า ผลผลิตข้าวของเราไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ต่ำมากนัก

ขณะที่ได้สั่งการให้กระทรวงการคลังขยายเวลาการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี สำหรับการบริจาคเงิน หรือทรัพย์สินให้แก่กองทุนเพื่อความเสมอภาคเพื่อความเสมอภาคทางด้านการศึกษา เพื่อช่วยเหลือเด็กที่อยู่นอกระบบการศึกษา ให้ เข้ามาอยู่ในระบบของการศึกษา

ส่วนมีเรื่องน่ายินดี คือ คณะรัฐมนตรียังได้มีมติอนุมัติตามที่สภาพัฒน์เสนอให้เข้าเป็นสมาชิกกลุ่มเศรษฐกิจที่พัฒนา หรือ โออีซีดี หรือกลุ่มประเทศเศรษฐกิจที่พัฒนา ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 3-4 ปี จึงสามารถเข้าร่วมได้ ซึ่งในขั้นตอนแรกหลังจากการเดินทางไปประชุมที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทางญี่ปุ่นเองได้เชิญเราไปเป็นผู้ร่วมสังเกตการณ์การประชุมในปีหน้า

ขณะเดียวกันคณะรัฐมนตรียังให้ความเห็นชอบพระราชบัญญัติงบประมาณปี 2567 ที่ส่งให้กฤษฎีกาตรวจสอบแล้ว เพื่อส่งไปยังรัฐสภา อีกทั้ง คณะกรรมการไตรภาคีที่มีการพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องค่าแรงจะมีการประชุมอีกครั้งในช่วงต้นปีหน้า หรือในช่วงประมาณเดือนมกราคม เพื่อกำหนดอัตราใหม่ ที่พยายามทำให้ค่าแรงปรับสูงขึ้น ซึ่งย้ำว่าจะพยายามอย่างเต็มที่ และคาดว่าจะประกาศใช้ให้ทันในช่วงเดือนมีนาคม ซึ่งในรายละเอียดอาจจะมีการไปเจาะในรายอำเภอ หรือรายอาชีพ เพื่อให้ คุณภาพวิถีชีวิตของประชาชนดีขึ้น

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังเปิดเผยอีกว่า ในช่วงบ่ายวันนี้จะเดินทางไปดูในเรื่องของยาเสพติดถึงขนาดนี้เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศและประกาศเป็นวาระแห่งชาติ นราธิวาสก่อนจะเดินทางไปยังอำเภอจะนะ จังหวัดนราธิวาส เพื่อลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน ที่เบื้องต้นบางพื้นที่สถานการณ์ดีขึ้นคลี่คลายได้แต่ยังมีความเสียหายอยู่ สิ่งสำคัญคือการเดินทางไปพูดคุยพบปะกับประชาชนในพื้นที่

จากนั้นในช่วงค่ำมีภารกิจเดินทางต่อไปยังจังหวัดภูเก็ต นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเพื่อร่วมรับประทานอาหารกับนายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย ซึ่งท่านเดินทางมาเป็นการส่วนตัว โดยจะมีการพูดคุยหารือใน เรื่องการตั้งคณะกรรมการไทยมาเลเซีย ทั้งเรื่องการค้าชายแดน การเกษตรการท่องเที่ยว และความมั่นคง รวมถึงพูดคุยในเรื่องการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำสุไหงโกลก เพื่อช่ววกระตุ้นการท่องเที่ยวแบบ “ทู คันทรี่ วัน Destination” เพราะในช่วงหลังมีนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยจำนวนมากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย แต่กลับกันนักท่องเที่ยวไทยกลับเดินทาง ไปท่องเที่ยวในประเทศมาเลเซียจำนวนน้อย ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องมาพูดคุยหารือกัน ซึ่งทั้งหมดเป็นการพัฒนาทำให้ภูมิภาคนี้มีความเจริญมากขึ้น

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรียังได้อวยพรประชาชนในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ขอให้ทุกท่านพักผ่อนพักผ่อนกันให้เต็มที่ ส่วนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อเยี่ยมญาติพี่น้องขอให้ เดินทางอย่างปลอดภัยระมัดระวังการขับขี่รถ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จคิดอะไรขอให้สมดังใจคิด มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง