ดร. ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (26 ธ.ค.2566) ได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึง พล.ต.ต. อธิป พงษ์ศิวาภัย ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ปอท.) เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ นายรังสิมันต์ โรม สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มาตรา 14 กรณีนำเรื่องงบประมาณสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งนายรังสิมันต์ อภิปรายพาดพิงในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2565 เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2564 มาสร้างวาทกรรมที่บิดเบือนไม่เป็นจริง เข้าสู่ระบบสังคมออนไลน์ โจมตี ใส่ร้าย บิดเบือนข้อเท็จจริง และมีการกระทำเป็นขบวนการเพื่อให้ประชาชนทั่วไปเกิดความเข้าใจผิด
ดร. ณฐพร กล่าวว่า ประเทศไทย มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ได้บัญญัติไว้ในมาตรา 6 องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะล่วงละเมิดมิได้ บทบัญญัติดังกล่าว ใช้เป็นครั้งแรกในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475 มาตรา 3 และบัญญัติในทำนองเดียวกัน ในรัฐธรรมนูญทุกฉบับ อีกทั้งยังกำหนดหน้าที่ของปวงชนชาวไทย ไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว จนถึงฉบับปัจจุบันในมาตรา 50 ว่า บุคคลมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่นายรังสิมันต์ ทั้งในฐานะปวงชนชาวไทย และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กลับมีเจตนาฝ่าฝืน จงใจ ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นบทกฎหมายสูงสุดของประเทศ กระทำการอันล่วงละเมิด สถาบันพระมหากษัตริย์ โดยการนำข้อมูลอันเป็นเท็จ ปราศจากข้อเท็จจริง กล่าวหา โจมตี สถาบันพระมหากษัตริย์ ให้เกิดความเสียหาย
“เพื่อมิให้เกิดเป็นเยี่ยงอย่าง ผมจึงใช้สิทธิตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 50 ร้องทุกข์ กล่าวโทษ นายรังสิมันต์ ต่อ ผบก.ปอท เพื่อให้มีการสอบสวน ดำเนินคดีที่จะเป็นบรรทัดฐานให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ขอยืนยันว่า ผมไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับนายรังสิมันต์ มาก่อน” ดร. ณฐพร ระบุ