“อนุทิน” กำชับหน่วยงานในพื้นที่ เร่งช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนในภาคใต้ที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสที่ขณะนี้เกิดอุทกภัยในวงกว้าง พร้อมกับมอบหมายกระทรวงมหาดไทยติดตามดูแล และช่วยเหลือประชาชน โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ได้ติดตามการดำเนินตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้รายงานสถานการณ์ ณ เวลา 6.00 น. ของวันนี้ (26 ธ.ค.66) ว่า ผลจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องระหว่างวันที่ 22 – 26 ธ.ค. 66 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากใน 5 จังหวัด 24 อำเภอ 384 ตำบล มีประชาชนได้รับผลกระทบ 19,624 ครัวเรือน ดังนี้ 1)จ.สตูล น้ำท่วม 1 อำเภอ 4 ตำบล 14 หมู่บ้าน ครัวเรือนได้รับความเสียหาย 1,222 ครัวเรือน 2) จ.สงขลา 2 อำเภอ 3 ตำบล 11 หมู่บ้าน ครัวเรือนได้รับความเสียหาย 190 ครัวเรือน 3)

จ.ยะลา 6 อำเภอ 20 ตำบล 48 หมู่บ้าน ครัวเรือนได้รับความเสียหาย 424 ครัวเรือน 4)จ.ปัตตานี 4 อำเภอ 8 ตำบล 12 หมู่บ้าน ครัวเรือนได้รับความเสียหาย 1,108 ครัวเรือน และ 5) จ.นราธิวาส 11 อำเภอ 57 ตำบล 229 หมู่บ้าน 16,680 ครัวเรือน

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า รมว.มหาดไทยในฐานะผู้บัญชาการกองป้องกันและบรรเทาสาธารภัยแห่งชาติ ได้กำชับหน่วยงาน ปภ. ในพื้นที่ดำเนินงานตามแผนเผชิญเหตุ ซึ่งได้เตรียมการตั้งแต่ต้นฤดูกาลอย่างเข้มงวด ทั้งการนำเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าช่วยเหลือเร่งระบายน้ำ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน พร้อมกับดำเนินการตามข้อห่วงใยของนายกรัฐมนตรีที่มีต่อประชาชนที่ครัวเรือนได้รับความเสียหาย ดูแลผู้ที่กำลังประสบภัยในด้านต่าง ๆ ทั้งการดำรงชีพ การมีศูนย์พักพิงให้ผู้ที่ต้องอพยพ มีถุงยังชีพ เวชภัณฑ์ น้ำดื่มสะอาด และสิ่งจำเป็นพื้นฐาน เป็นต้น

และเมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้ว ให้เร่งสำรวจความเสียหายให้ครบถ้วนทุกด้าน โดยเฉพาะบ้านเรือนที่พักอาศัย พื้นที่การเกษตร สิ่งสาธารณประโยชน์เพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ ในวันนี้(26 ธ.ค.66) หลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง พร้อมผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยจะเดินทางลงพื้นที่ จ.นราธิวาส ซึ่งขณะนี้เกิดอุทกภัยในวงกว้าง เพื่อติดตามการให้ความช่วยเหลือพร้อมให้กำลังใจประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ต่อไป