วันนี้ (21 ธ.ค.66) นายชัยชนะ เดชเดโช ประธานกรรมาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมกรรมาธิการ ระบุว่าวันนี้มีความกระจ่าง ในประเด็นการวินิจฉัยให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปรับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ เป็นความเห็นของแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ว่ามีอาการป่วยด้วยโรคไวรัสตับอักเสบบี และมีอาการแน่นหน้าอกตอนดึก เนื่องจากเคยเป็นโรคปอดตอนติดเชื้อโควิด-19 แพทย์จึงมีความเห็นให้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ
ส่วนเงินที่ใช้ในการรักษาตัวของนายทักษิณเป็นเงิน สปสช. และทางกรมราชทัณฑ์แจ้งว่าถ้าเกินสิทธิ์ สปสช. ผู้ต้องขังมีสิทธิ์ที่จะจ่ายเงินส่วนต่างได้ ซึ่งตนได้ถามกลับไปว่ามีระเบียบข้อไหนที่ให้ดำเนินการอย่างนี้ขอให้กรมราชทัณฑ์ส่งเอกสารมาให้กรรมาธิการ
รวมถึงขอให้กรมราชทัณฑ์ส่งเอกสารข้อมูลภาพถ่ายผู้คุมที่ไปปฎิบัติหน้าที่ตั้งแต่ออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพและโรงพยาบาลตำรวจและการเปลี่ยนเวรต่างๆว่ามีผู้คุมกี่คน
ส่วนเรื่องกรอกประวัตินักโทษ กรมราชทัณฑ์ชี้แจงว่านายทักษิณได้กรอกข้อมูลเบื้องต้นทางอิเล็กทรอนิกส์ส่ก่อนเข้ารับโทษที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพอย่างถูกต้องครบถ้วนเรียบร้อย ซึ่งทางนายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้ร้องบอกว่าขอใบ ร.ท. 101 ด้วย ซึ่งกรมราชทัณฑ์ก็จะรวบรวมเอกสารส่งให้กับ กมธ.ต่อไป
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการได้มีมติว่าจะไปดูงานที่โรงพยาบาลตำรวจในวันที่ 12 มกราคมก่อนวันเด็กแห่งชาติเพียงหนึ่งวัน ในเวลา 09:30 น. แต่หากวันนั้นมีการประชุมงบประมาณก็ต้องเลื่อนออกไปก่อน
ส่วนจะต้องเชิญ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมมาอีกหรือไม่นั้น นายชัยชนะกล่าวว่าข้อมูลที่ได้วันนี้ครบถ้วนพอสมควร ส่วนประเด็นที่ตอบไม่ได้ก็ขอให้นำมาเป็นเอกสาร เมื่อได้เอกสารแล้วก็จะเห็นความกระจ่างทั้งหมด ที่สำคัญยังได้มีการขอระเบียบในการคุมขังนอกเรือนจำ ว่ามีขั้นตอนอย่างไร คณะกรรมการในการพิจารณาอย่างไรและนักโทษใดบ้างที่เข้าข่าย
โดยการดูงานวันที่ 12 มกราคมจะไปดูเรื่องของการรักษาตัว การปฏิบัติต่อผู้ป่วยของโรงพยาบาลตำรวจ การปฏิบัติต่อผู้ป่วยที่เป็นผู้ต้องขัง ว่าพักรักษาตัวที่ห้องไหนบ้าง ตึกไหนบ้าง มีขั้นตอนอย่างไร ซึ่งต้องไปทุกๆชั้นที่มีผู้ต้องขัง
ทั้งนี้หากไม่ได้รับอนุญาตให้ไปชั้น 14 นายชัยชนะระบุว่าก่อนไปดูงานคณะกรรมาธิการจะทำหนังสือถึงโรงพยาบาลตำรวจถึงรายละเอียดในการไปดูงาน ส่วนโรงพยาบาลตำรวจจะตอบอนุญาตแค่ไหนก็เป็นสิทธิของโรงพยาบาลตำรวจ ตนไม่อาจก้าวล่วงได้ แต่ต้องการสังคมได้ทราบว่ากรรมาธิการตำรวจมีความประสงค์ที่จะไปศึกษาดูงานที่นั่น ทั้งนี้หากไม่อนุญาตก็เป็นสิทธิของโรงพยาบาลตำรวจ แต่ต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ว่ามีเหตุผลอย่างไร
ส่วนจะแน่ใจได้อย่างไรว่าในวันที่ 12 มกราคมนายทักษิณจะยังอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ นายชัยชนะระบุว่าตนไม่ใช่เทวดาไม่สามารถตอบได้ ถ้าตนเป็นเทวดาจะตอบได้ว่าอยู่หรือไม่อยู่ วันที่ 12 จะอยู่หรือไม่ ขึ้นยู่กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่รับผิดชอบ จะทำให้นักโทษคนไหนอย่างไร เป็นสิทธิ์ของคนนั้น แต่ถ้าตนบอกว่าอยู่แล้วไม่อยู่ ตนก็เสียหน้า หากบอกว่าไม่อยู่แต่เกิดอยู่ ตนก็เสียหน้าเช่นกัน ตนไม่ใช่ซุปเปอร์แมนที่จะเนรมิตทุกอย่างขึ้นมาได้
ขณะเดียวกันนายชัยชนะอย่างยอมรับว่ายังไม่หายสงสัยเรื่อง 2 มาตรฐาน เพราะต้องรอเอกสารที่กรมราชทัณฑ์ชี้แจงว่าที่กรมราชทัณฑ์ชี้แจงว่าใช้สิทธิ์บัตรทอง เมื่อเกินสิทธิ์บัตรทอง ญาติสามารถจจ่ายเองได้ ใช้เงินของครอบครัวจ่ายได้ เราต้องการดูระเบียบข้อนี้ ว่ามีรองรับหรือไม่ ซึ่งถ้ามีระเบียบข้อนี้รองรับ เราจะประชาสัมพันธ์ต่อประชาชนที่มีญาติถูกคุมขัง ว่าต่อไปหากป่วยและเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล สามารถใช้สิทธิ์บัตรทองและสามารถใช้สิทธิ์จ่ายเองได้ เราต้องการระเบียบตรงนี้มากกว่า
ภาพ – ธนโชติ ธนวิกรานต์