‘นายกฯ’ปลื้มลุยญี่ปุ่นทุกอย่างประสบความสำเร็จทุกอย่างเป็นไปด้วยดี บอกญี่ปุ่นมิตรแท้ มองตาก็รู้ใจ ‘นายกฯญี่ปุ่น’ชวนร่วมสังเกตการณ์ ประชุม OECD ยกระดับหารือการค้า
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยถึงผลการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น ว่า ในฐานะที่ไทยเป็นผู้ประสานงานได้กล่าวรายงานถึงความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่นที่มีมากกว่า 50 ปี ซึ่งญี่ปุ่น เป็นคู่ค้ารายใหญ่ของอาเซียน และเป็นรายใหญ่ที่สุดที่ลงทุนในไทย และมีการหารือถึงความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่นในเรื่องการลงทุน การท่องเที่ยวและการลงทุนพลังงานสะอาด เศรษฐกิจดิจิทัล( Digital Economy )ซึ่งเป็นทิศทางทางเศรษฐกิจใหม่ที่จะให้เศรษฐกิจเจริญกลับมาได้ และการที่ไทยกับญี่ปุ่นเป็น Heart to Heart Partners หรือใจถึงใจ ซึ่งความสัมพันธ์ทางด้านจิตใจนี้เกิดจากความสัมพันธ์ในระดับประชาชนที่แน่นแฟ้น เห็นได้จากระยะหลังไทยและญี่ปุ่นสามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้สบาย โดยไม่ต้องมีวีซ่า และตอนนี้มีการยกระดับนักธุรกิจญี่ปุ่นไม่ต้องมีวีซ่าในการเข้าประเทศไทย
นายกฯ กล่าวต่ออีกว่า นายกฯญี่ปุ่น ยังได้กล่าวสุนทรพจน์ถึง “เมสซี เจ” นายชนาธิป สรงกระสินธ์ นักฟุตบอลทีมชาติไทย มาญี่ปุ่นก็ดังมากอยากให้มีแบบนี้อีก ซึ่งส่วนตัวก็ตกใจเรื่องนี้ยิ่งทำให้เห็นสิ่งที่บอกว่าใจถึงใจ ถือเป็นไมตรีจิตที่ประเทศมีต่อกัน นอกจากนี้ ยังมีการหารือกับนายกฯญี่ปุ่นเป็นการส่วนตัว โดยได้มีการพูดคุยถึงการลงทุนธุรกิจและรายงานให้ท่านทราบโดยตรง ซึ่งการที่เดินทางมาก่อนวันประชุม เพื่อพูดคุยกับบริษัทยานยนต์ 7 บริษัท ที่ต้องการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์สันดาปเป็นรถยนต์อีวี รัฐบาลไทยได้ให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลญี่ปุ่นมีบุญคุณกับเรามามาก ฉะนั้นการดูแลนักลงทุนญี่ปุ่นจึงเป็นเรื่องที่ให้ความสำคัญสูงสุด นอกจากนี้ยังได้มีการพูดคุยให้ญี่ปุ่นช่วยพัฒนาซอฟพาวเวอร์ เพราะมีความชำนาญในเรื่องนี้ และแม้ว่าญี่ปุ่นลงทุนในไทยเยอะ แต่ก็มีนักลงทุนไทยมาลงทุนที่ญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน จึงได้ฝากให้ช่วยดูแล
นายกฯ กล่าวอีกว่า ในการพูดคุยกับนายกฯญี่ปุ่นยังมีการพูดถึงองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ซึ่งมีประเทศใหญ่ๆเป็นสมาชิกอยู่ 30 กว่าประเทศ อาทิ ออสเตรเลียเบลเยียม ฝรั่งเศส เยอรมนี เกาหลี สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร แต่ไทยยังไม่ได้เป็นสมาชิกอยู่ระหว่างการยื่นอยู่ โดยญี่ปุ่นเชิญให้เข้าร่วมประชุมในฐานะผู้สังเกตการณ์ในการประชุมครั้งหน้าช่วงปีหน้า ซึ่งไม่ต้องไปขอ แต่ญี่ปุ่นเขาเชิญมา ทั้งนี้ หากได้เป็นสมาชิกการเจรจาเกี่ยวกับ สนธิสัญญาการค้า จะทำได้ดีขึ้นถือเป็นเรื่อง ยิ่งเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นความสำเร็จสัมพันธ์ดีมาก
“การเดินทางในครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จมาก และการพูดคุยในวันนี้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ซึ่งกระทรวงต่างประเทศเตรียมการไว้ดีมาก อย่างเรื่องนักธุรกิจไม่ต้องใช้วีซ่า เขาขอมาช่วงที่เจอกัน ที่ประชุมเอเปค ที่เมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกาเขาขอมาไม่ถึง 1 เดือนก็เรียบร้อย พอรู้ดีว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นคู่สัญญานที่สำคัญ ในการทำธุรกิจ นอกจากนี้ ยังมีการแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ในเมียนมา ผมจึงให้ความมั่นใจไปว่าประเทศไทยในฐานะเพื่อนบ้านที่ใกล้เคียงเราจะไม่ทอดทิ้ง ซึ่งก่อนหน้านี้นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯและรมว. ต่างประเทศ ได้ประชุมกับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนทั้งหมด โดยจะมีการตั้งกลุ่มขึ้นมาพูดคุยว่าจะช่วยเหลืออย่างไร“ นายกฯ กล่าว
#นายกหารือJETRO #นายกเยือนญี่ปุ่น #นายกเศรษฐา #ข่าวโมโน #MONONEWS #MONO29 #สังคมอยากรู้ดูข่าวโมโน
