คัดลอก URL แล้ว
“สุทิน” เตรียมเจรจากัมพูชาเปิดพรมแดนเขาพระวิหาร

“สุทิน” เตรียมเจรจากัมพูชาเปิดพรมแดนเขาพระวิหาร

ปัญหาข้อพิพาทเรื่องเขตแดนระหว่างไทยและกัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณประตูเหล็ก ทางขึ้นปราสาทเขาพระวิหาร ฝั่งอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่ถูกปิดมานานกว่า 10 ปี

วันนี้ความหวังเรื่องการเปิดด่านพรมแดนไทย-กัมพูชา น่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ และเตรียมเจรจากับรัฐบาลกัมพูชาเร็วๆ นี้

ประตูเหล็ก ซึ่งเป็นพรมแดนระหว่างไทย-กัมพูชา และเป็นช่องทางที่จะขึ้นไปยังปราสาทพระวิหาร อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ด้านอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ถูกปิดมานานกว่า 10 ปี หลังจากเกิดปัญหาข้อพิพาทเรื่องเขตแดนระหว่างไทยและกัมพูชา จนนักท่องเที่ยวไม่สามารถขึ้นไปชมเขาพระวิหารผ่านเส้นทางนี้ได้

วันนี้ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ พร้อมรับฟังข้อมูลจากฝ่ายความมั่นคง

ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงต้นปี ฝ่ายปกครองในอำเภอกันทรลักษ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เสนอให้รัฐบาลไทยและกัมพูชาพิจารณาเปิดประตูเหล็กให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมปราสาทพระวิหารจากชายแดนไทย ฝั่งผามออีแดง ตำบลเสาธงชัย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่

ประธานหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ สะท้อนมุมมองการเปิดชายแดนเขาพระวิหารที่จุดนี้ เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจ การค้าชายแดนของทั้งสองประเทศ ซึ่งโดยปกติมูลค่าการค้าชายแดน อยู่ที่ปีละ 1 พันล้านบาท หากผลักดันเปิดชายแดนเขาพระวิหาร ก็จะทำให้มูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นเท่าตัว

การแก้ปัญหาเรื่องชายแดนระหว่างประเทศมีรายงานว่า ส.ส.จังหวัดศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทยได้ร่วมลงนามในหนังสือส่งถึงนายกรัฐมนตรี ให้เร่งเปิดจุดผ่านแดน

ส่วนพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนในอ่าวไทย ตามกรอบเอ็มโอยู ไทย-กัมพูชา ปี 2544 ล่าสุด นายนพดล ปัทมะ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศของสภาฯ เตรียมทำหนังสือแจ้งนายกรัฐมนตรี ให้เร่งเจรจาความร่วมมือระดับนโยบาย พร้อมเสนอตั้งคณะกรรมการด้านเทคนิค หรือเจทีซี เพื่อการเจรจาแก้ปัญหารอบใหม่

และยังจะใช้โอกาสนี้ พลิกวิกฤตปัญหาราคาพลังงานเชื้อเพลิงไปด้วย เพราะหลังเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าหารือการเจรจายังไม่สำเร็จ-ลงตัว ทั้งปัจจัยด้านสัดส่วนและด้านสิทธิเขตแดน