วันนี้ ( 15 ธันวาคม 2566 ) ที่ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ทนายธรรมราช สาระปัญญา พร้อมกลุ่มผู้สนับสนุนและศรัทธา อ. #น้องไนซ์ กว่า 20 คน เดินทางมายื่นหนังสือแถลงข้อเท็จจริงและขอรับความคุ้มครองเยาวชน โดยอ้างว่าน้องไนซ์ถูกบิดเบือนใส่ร้าย ทำให้ได้รับความเสียหาย โดยหนังสือร้องเรียนที่นำมาได้แนบเอกสารที่เป็นภาพตัดต่อโจมตีน้องไนซ์ ลักษณะคล้ายพระพุทธเจ้า รวมทั้งข้อความลักษณะเหมือนเป็นการการคุกคามน้องไนซ์ ทั้งเรื่องครอบครัวและการสื่อสาร
ทนายธรรมราช บอกว่าช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีคนกลุ่มหนึ่งนำเรื่องน้องไนซ์ไปร้องเรียนกับนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยนางพวงเพ็ชรระบุว่า ไม่ใช่ขอบเขตสำนักพระพุทธศาสนา เป็นหน้าที่ของตำรวจในการดำเนินการสอบสวนในวันนี้จึงเข้ามายื่นหนังสือกับตำรวจ เพื่อให้ตำรวจเชิญน้องไนซ์หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาชี้แจงได้
ที่ผ่านมามีกลุ่มบุคคลพยายามเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนข้อเท็จจริง เรื่องของคำสอนน้องไนซ์ลงในโซเชียล และหยิบข้อมูลขึ้นมาโจมตี ทั้งเรื่องเกี่ยวกับคำสอนและการหลอกลวงเงิน ส่วนตัวมองว่าคำสอนของน้องไนซ์เป็นเรื่องจริง ส่วนเรื่องของการเรียกเก็บเงิน เป็นส่วนของผู้จัด ที่ทำหน้าที่ดำเนินการ เพราะมีค่าใช้จ่าย เรื่องสถานที่ ค่าอาหาร ที่พัก ตัวน้องไนซ์ เป็นเพียงวิทยากรไม่ได้รับเงินค่าจ้าง ส่วนที่เห็นภาพน้องไนซ์รับเงิน ยอมรับว่าเป็นการรับเงินจริง แต่ภายหลังก็ส่งต่อไปสมทบในการสร้างสถานปฎิบัติธรรม
ขณะที่ข้อสงสัยเรื่องของบัญชีเปิดรับบริจาค ที่เป็นบัญชีส่วนตัวของนายแพทย์ท่านหนึ่ง อธิบายว่าจุดประสงค์นายแพทย์คนนี้ตั้งใจจะรวบรวมเงิน สร้างสถานปฎิบัติธรรม ซึ่งขณะนี้มีการยื่นเรื่องเปิดมูลนิธิแล้วแต่ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ ยืนยันว่าเงินส่วนนี้สามารถตรวจสอบเส้นเงินได้ว่า เมื่อสอบถามว่ามีเงินหมุนเวียนมากน้อยแค่ไหนทางทนายบอกว่ามีในบัญชีหลายแสนบาท และตอนนี้ก็ยังอยู่ครบ
ส่วนข้อสงสัยเรื่องวิธีการเชื่อมจิตของน้องไนซ์ ที่มีคนสงสัยว่า คืออะไร ทนายธรรมราช ระบุว่าเป็นวิธีการช่วยของคนที่มีวิปัสสนากรรมฐานสมาธิแล้วมีปัญหาติดขัด น้องไนซ์จะเชื่อมจิตไปช่วย
ประเด็นที่ในโซเชียลมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่น้องไนซ์ถอดจิตคุยกับ ปูติน ยืนยันว่าน้องไนซ์มีเจตนาที่จะไปเผยแพร่และพุทธศาสนาในยุโรปและรัสเซีย ซึ่งเป็นแผนอนาคต ว่าหากมีโอกาสจะเข้าไปพูดคุยกับปูติน ซึ่งเป็นเรื่องอนาคต แต่คนเอาไปบิดเบือนให้เกิดความเข้าใจผิด
ในกรณีที่มีคนแสดงความคิดเห็นว่าทำไมน้องไนซ์ไม่บวชเณรถ้าจะบรรยายธรรม หรือ กลัวว่าจะควบคุมเด็กไม่ได้ในส่วนนี้ทนายธรรมราช ระบุว่า ธรรมะ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหนหากมีความสามารถในการสอน ใครก็สามารถสอนได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการแต่งกายการแต่งกายหรือการบวช
ส่วนที่เมื่อวานนี้มีอดีตคนศรัทธาน้องไนซ์ออกมาแฉว่า เข้าไปในกลุ่มโอเพ่นแชทของน้องไนซ์เพราะศรัทธามากว่าสามปี แต่ปรากฏว่าพอมีคำถามและข้อสงสัย ในการสอนและการเรียกเก็บเงินกลับถูกดีดออกจากแชท ในส่วนนี้ทนายความบอกว่าจากการตรวจสอบหญิงคนนี้เพิ่งเข้ามาในแชทวันที่ 8 ธันวาคม หลังจากนั้นก็มีพฤติกรรมลักษณะเหมือนเป็นการล่อซื้อ เอาข้อมูลบิดเบือนไปเป็นหลักฐาน เช่น มีการส่งสลิปเงิน ทั้งที่เป็นกลุ่มสอบถามข้อธรรมะ ทำให้แอดมินจำเป็นต้องดีดออกไป
ทนายธรรมราช กล่าว
ทั้งนี้กลุ่มคนสนับสนุนน้องไนซ์ระบุว่าหากมีข้อสงสัย ว่าการเรียกรับเงินหรือคำสอนไม่ถูกต้อง ก็ให้ไปดำเนินคดีตามกฎหมายเอา เพื่อให้ศาลพิสูจน์ความจริง
ภาพ – วิชาญ โพธิ