จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงในสนามฟุตบอลหญ้าเทียมแห่งหนึ่งในตำบลลำสามแก้ว อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เขตพื้นที่ สถานีตำรวจภูธรคูคต จังหวัดปทุมธานี วานนี้ (10 ธ.ค. 66) ซึ่งหลังก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนีไป

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (11 ธ.ค. 66) พลตำรวจตรีณัฐกร ประภายนต์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 (ผบก.ตม.3) เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจ ตม.3 สามารถจับกุมนายดวง หรือ ด้วง ชาวกัมพูชา ผู้ก่อเหตุยิงปืนในสนามฟุตบอลได้แล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่ด่านบ้านแหลม จังหวัดจันทบุรี

จากการสอบพฤติการณ์เบื้องต้น พบว่า หลังจากนายดวงยิงปืนเสร็จ ได้หลบหนีไปทางฟิวเจอร์พาร์ค ส่วนปืนทิ้งไว้ที่คลองรังสิตฯ (บริเวณฟิวเจอร์พาร์ค) ก่อนจะนั่งรถหนีไป จังหวัดสมุทรปราการ ก่อนไปขึ้นรถตู้ทางบางบ่อ มุ่งหน้าไปด่านบ้านแหลม จังหวัดจันทบุรี เพื่อหลบหนีออกไปประเทศกัมพูชา แต่สามารถถูกสกัดจับได้ภายหลัง

พลตำรวจตรีณัฐกร ยังกล่าวอีกว่า เบื้องต้น นายดวงให้การรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุยิงจริง ส่วนอาวุธปืนได้ทำการโยนทิ้งไปแล้วก่อนหน้า ส่วนสาเหตุและแรงจูงใจอยู่ระหว่างการสอบปากคำเพิ่มเติม รวมทั้งขยายผลหาตัวผู้ให้การช่วยเหลือหลบหนีต่อไป โดยหลังจากนี้จะนำตัวนายดวงมาสอบที่กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 เมืองทองธานี ก่อนจะมีการประสานและส่งตัวให้ตำรวจ สภ.คูคตต่อไป

ด้านพันตำรวจเอกกานตภณ วรรณา ผู้กำกับการสถานีตำรวจคูคต เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางตำรวจพื้นที่อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน เพื่อจะเร่งขออำนาจศาลออกหมายจับนายดวง ส่วนข้อหาที่แจ้งเบื้องต้นคือ พกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะและยิงปืนไปในที่สาธารณะ ซึ่งถ้าหากได้ตัว จะต้องดำเนินการตรวจสอบต่อไปว่า ปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนมีใบอนุญาตหรือไม่ หากไม่มีใบอนุญาตก็จะดำเนินการเพิ่มข้อหาต่อไป

ด้านเจ้าของสนามให้ข้อมูลว่า วันนี้สนามฟุตบอลยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ไม่ได้มีการงดใช้บริการสนามแต่อย่างใด แต่จะเพิ่มการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะการตรวจเช็คอาวุธก่อนเข้ามาในพื้นที่

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามารวบรวมพยานหลักฐานไปครบถ้วนหมดแล้ว ส่วนภาพวงจรปิดภายในสนามนั้น จากการตรวจสอบพบว่า ระบบบันทึกภาพไว้แค่ 10 นาทีแล้วรีเซ็ต จึงไม่มีภาพบันทึกเหตุการณ์แต่อย่างใด ทั้งนี้ทราบมาว่า ตำรวจรู้ตัวผู้กระทำความผิดแล้วและอยู่ในระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี

ส่วนสาเหตุของการยิงกันนั้น ทราบมาว่าเกิดจากเรื่องทะเลาะวิวาทส่วนตัวระหว่างกลุ่มแรงงานด้วยกัน เพราะแรงงานกลุ่มนี้เคยมีประวัติทะเลาะวิวาทมาหลายครั้ง เรื่องแข่งขันฟุตบอลจึงไม่ใช่สาเหตุที่นำมาสู่การยิงกันแต่อย่างใด

ซึ่งหลังจากนี้ ทางสนามฟุตบอลก็ยังคงเปิดให้แรงงานชาวกัมพูชามาแข่งขันกระชับมิตรกันตามปกติ เพราะเนื่องจากการแข่งขันในลักษณะแบบนี้ ทางสถานทูตกัมพูชาเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขัน ซึ่งมีการเวียนแข่งขันตามสนามต่าง ๆ ในพื้นที่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งไม่เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะแบบนี้มาก่อน โดยได้ประสานกับสถานทูตกัมพูชาแล้วว่า หากจะมีการจัดการแข่งขันอีก ต้องทำหนังสือแจ้งมาที่สนาม เพื่อที่ทางสนามจะได้ทำหนังสือขอกำลังสนับสนุนจากเทศบาลและตำรวจ สภ.คูคต ในการรักษาความปลอดภัย ป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอยเช่นเมื่อวานนี้อีก