เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู งมหาของกลางที่นักศึกษาสาวชาวเมียนมา ถูกชายอิหร่าน ที่คบหาดูใจกัน แอบนำโทรศัพท์มือถือไปโอนเงินดิจิตอลมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ให้ตัวเอง แล้วนำหลักฐานไปโยนทิ้งคลองพระโขนง ท้ายซอยภูมิจิตร ใกล้สะพานวอเทอร์ฟอร์ด เขตพระโขนง เพื่อไม่ให้ติดตามตำแหน่งจีพีเอสได้
ซึ่งรับแจ้งว่ามีโทรศัพท์มือถือไอโฟน 13 และไอโฟน 15 ที่ใช้โอนเงินสกุลดิจิตอลซึ่งถูกโอนไปมีมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท เจ้าหน้าที่สามารถงมของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือ iPhone 15 ได้เพียง 1 เครื่อง และอยู่ระหว่างการค้นหาอีกเครื่อง
นอกจากโทรศัพท์มือถือที่ใช้โอนเงินสกุลดิจิทัล แล้ว ยัง ได้นำไอแพด 1 เครื่อง , นาฬิกาโรเล็กซ์ มูลค่า 6 แสนบาท 1 เรือน , เงินสดในตู้เซฟและในกระเป๋ารวม 4 แสน 1 หมื่นบาท พร้อมกระเป๋าแบรนด์เนม 1 ใบ ไปด้วย
พี่ชายของผู้เสียหาย เล่าว่า น้องสาวของตัวเองคบหากับผู้ก่อเหตุมานาน 5 เดือน ก่อนที่เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เวลา 21.00 น. ฝ่ายชายได้ให้น้องสาวดื่มโยเกิร์ต แล้วน้องสาวก็หลับไปยาวจนถึงเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันที่ 4 พฤศจิกายน ตื่นขี้นมาก็พบว่ามีทรัพย์สินหายไป ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความกับที่สถานีตำรวจนครบาลพระโขนง พี่ชายของผู้เสียหายจึงสันนิษฐานว่าน้องสาวถูกวางยา และยังกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาน้องสาวเชื่อใจแฟนหนุ่มชาวอิหร่านเป็นอย่างมาก ทำให้รู้รหัสเปิดตู้เซฟนำทรัพย์สินออกไปได้ และได้ทุบทำลายหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ก่อนโยนทิ้งคลอง และหลบหนีออกนอกประเทศไปพร้อมทรัพย์สินที่เหลือเมื่อเช้าวานนี้ 4 ธันวาคม ที่ผ่านมา
ผู้เสียหายได้มาเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพฯ และได้ทำธุรกิจเปิดร้านอาหาร ก่อนจะรู้จักกับฝ่ายชาย ซึ่งมาเรียนมวยที่ประเทศไทย เป็นคนหน้าตาดี หลังเกิดเหตุน้องสาวมีอาการเครียดเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปเป็นของครอบครัวที่ให้มาเป็นทุนทำธุรกิจและเรียนหนังสือ
ด้านพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลพระโขนง และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เก็บลายนิ้วมือภายในคอนโดมิเนียม และจุดเกิดเหตุที่ทิ้งของกลางลงคลอง เพื่อขอออกหมายจับต่อไป