จากกรณีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติใส่เครื่องแบบตำรวจไทยถ่ายคลิปโชว์ลงโซเชียล โดยปรากฎบุคคลคล้ายตำรวจอยู่ภายในคลิปดังกล่าวได้เปิดประตูรถขับรถรับส่งให้ จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมนั้น
วันที่ 5 ธันวาคม 2566 พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษกตร.) เปิดเผยว่า กรณีมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้แต่งกายชุดเครื่องแบบตำรวจไทย และมีชายที่มีลักษณะคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนอยู่ข้างๆ จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ถึงสถานที่และรายละเอียดข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร หากพบว่าเป็นข้าราชการตำรวจจริงทางต้นสังกัดจะเป็นผู้ดำเนินการ ทั้งนี้ขอเวลาในการตรวจสอบเท็จจริงก่อน คาดว่าจะใช้ระยะเวลาไม่นานจะทราบความจริง
เมื่อถามถึงว่าจะต้องเชิญชายชาวต่างชาติมาให้ปากคำด้วยหรือไม่ พล.ต.ท.อาชยน เปิดเผยอีกว่า จะต้องทำการตรวจสอบชายผู้โพสต์คลิปดังกล่าวว่าบุคคลที่ปรากฎในคลิปมีใครบ้าง อยู่ที่ไหน อย่างไร ต้องพิสูจน์ทราบทั้งตัวบุคคลและสถานที่ ส่วนจะมีความผิดตามข้อกฎหมายใดหรือไม่นั้น ขอให้รอการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน แล้วค่อยมาพิจารณาว่าเข้าองค์ประกอบความผิดไหนอย่างไร เรื่องนี้ทางพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับรายงานถึงกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว ได้สั่งการให้ตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริงโดยเร็ว
ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นที่มีการแชร์ไปทั่วโลกจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ตำรวจลักษณะดูหมิ่นหรือดูแคลนหรือไม่นั้น โฆษกตร. ย้ำว่าต้องรอการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนว่ามีที่ไปที่มาอย่างไร เบื้องต้นจะต้องเร่งตรวจสอบโดยเร็วที่สุด พร้อมฝากเตือนไปยังนักท่องเที่ยวว่า การแต่งเครื่องแบบหรือให้เจ้าหน้าที่มาบริการขับรถให้ในสถานที่ราชการหรือสถานที่ทั่วไปนั้นต้องระมัดระวังเพราะอาจจะเข้าข่ายความผิดได้
อีกทั้งต้องดูเรื่องสามัญสำนึกของทุกคน โดยเฉพาะหน่วยงานราชการนั้น ๆ ที่ให้นำไปใช้ ว่าเครื่องแบบนี้นักท่องเที่ยวได้มาอย่างไร และเรื่องคอนเท้นที่ทำมีรายละเอียดเรื่องคำพูดหรือกริยาวาจาอย่างไร ส่งผลกระทบต่อหน่วยงานหรือไม่ และขอให้ทุกคนช่วยกันเป็นหูเป็นตารวมถึงผู้บังคับบัญชาก็ต้องกวดขันหรือสั่งการผู้ใต้บังคับบัญชาในเรื่องดังกล่าว ทั้งเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการมาขอใช้เครื่องแบบหรือใช้สถานที่อุปกรณ์ รถ หรือแม้แต่วิทยุสื่อสารต่างๆ ต้องพิจารณาให้ดี และผู้บังคับบัญชาต้องมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ