วันนี้ (2 ธ.ค.66) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไอกรน ในประเทศไทย มีจำนวนผู้ติดเชื้อโรคไอกรนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้จำนวนมาก มีผู้ป่วยยืนยันมากกว่า 100 ราย ซึ่งผู้ป่วยทุกรายเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีนมาก่อน และรายงานข้อมูลยืนยันว่า มีเด็กอายุเพียง 18 วัน เสียชีวิตจากการติดเชื้อไอกรนแล้ว จำนวน 1 ราย
นายคารม กล่าวว่า ไอกรนเป็นโรคที่ติดต่อกันได้ง่ายจากการไอ จาม รดกันโดยตรงผู้สัมผัสโรคที่ไม่มีภูมิคุ้มกันจะติดเชื้อและเกิดโรคเกือบทุกราย โรคนี้พบได้บ่อยในเด็ก ส่วนใหญ่ติดเชื้อมาจากผู้ใหญ่ในครอบครัวซึ่งมีการติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ (carrier) หรือมีอาการไม่มาก โรคไอกรนเป็นได้กับทารกตั้งแต่เดือนแรก ทั้งนี้ เนื่องจากภูมิคุ้มกันจากแม่ผ่านมายังลูกไม่ได้หรือได้น้อยมากในเด็กเล็กอาการจะรุนแรงมากและมีอัตราตายสูง ส่วนใหญ่ของผู้ที่มีอาการรุนแรงและเสียชีวิต เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี และเป็นเด็กที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน โดยทั่วไปแล้ว โรคนี้เป็นได้ทุกอายุถ้าไม่มีภูมิคุ้มกัน แต่ในวัยหนุ่มสาว หรือผู้ใหญ่อาจไม่มีอาการหรือไม่มีอาการแบบไอกรน ส่วนใหญ่จึงไม่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคไอกรน
“รัฐบาลห่วงใยปัญหาความปลอดภัยในชีวิต และสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะผลกระทบจากโรคต่อเด็ก แนะนำให้ประชาชนการสวมหน้ากากอนามัยป้องกันโรคไอกรน สิ่งสำคัญที่สุดคือ การฉีดวัคซีน แต่ถ้ามีการติดเชื้อแล้วก็ต้องรักษาตามอาการ เพราะเป็นโรคที่รักษาได้ แต่จะต้องไปพบแพทย์ให้ทันเวลา เพื่อรับการวินิจฉัยโรคอย่างรวดเร็วป้องกันเชื้อลงปอด“ นายคารม ย้ำ