วันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 จากกรณีที่มีคลิป “แป้ง นาโหนด” ถูกเผยแพร่ออกมาเมื่อวานนี้ ในคลิปการตัดพ้อถึงการที่เจ้าตัวไม่ได้รับความเป็นธรรมและถูกหักหลังจากกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง เป็นเหตุผลที่ได้วางแผนหนีจากเรือนจำ โดยแป้งอ้างว่า ต้องการออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตนเองและนักโทษกว่า 393 ราย
ความคืบหน้าล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ ว่าที่ ร.ต.ชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ ทนายความกลุ่มทนายใจดี ซึ่งเป็นกลุ่มทนายความของแป้ง ได้ออกมาให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองรู้สึกตกใจเหมือนกันที่ “แป้ง นาโหนด” ได้หลบหนีออกจากโรงพยาบาล และล่าสุดเมื่อวานนี้ได้อัดคลิปเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเองและกลุ่มนักโทษกว่า 393 คน
ทางด้าน ว่าที่ร.ต.ชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ หรือ ทนายชัช ได้เล่าย้อนให้ทีมข่าวฟังว่า ตนเองเริ่มรู้จักกับ เสี่ยแป้ง เมื่อ ปี 2564 ขณะนั้น มีชาวบ้านในจังหวัดพัทลุงร้องเรียนผ่านกลุ่ม “ทนายใจดี” ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้ บุกใช้อาวุธสงครามเข้ามาข่มขู่ ลูกจ้างของเสี่ยแป้ง จำนวน 2 คน ภายในพื้นที่ดินของเสี่ยแป้ง ทำให้ชาวบ้านกว่า 100 คนในพื้นที่ รวมถึงตัวเสี่ยแป้ง เกิดความไม่พอใจและได้รวมตัวกันมาร้องเรียนกับตนเอง
ก่อนที่ตนเองและเสี่ยแป้งจะเดินทางไปร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองพัทลุง เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.วิรัตน์ จีนเมือง สารวัตรกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นหัวหน้าชุด มือปราบยาเสพติดมือหนึ่งของจังหวัด และพวก ในข้อหาร่วมกันบุกรุก และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เข้าที่ดินของผู้อื่นโดยไม่มีหมายค้นทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว ต่อมาคดีดังกล่าวมีการถอนคำร้องทุกข์ไปแล้ว เนื่องจากต่างฝ่ายต่างคุยกันได้ในชั้นพนักงานสอบสวน ทำให้ตัวเองได้รู้จักกับเสี่ยแป้ง นาโหนด
กระทั่งต่อมาตนเองได้มีโอกาสเป็นทนายความให้กับเสี่ยแป้ง อีก 2 คดี ในการยื่นเรื่องขอประกันตัวให้กับเสี่ยแป้ง คือ คดีปล้นทรัพย์ชิงตัวประกัน ที่แป้งและพวก ได้บุกชิงตัว นายสิทธิเดช ทรงเดชะ หรือจรวด จากตำรวจภูธรภาค 8 ที่บุกจับ นายจรวด คดียาเสพติด ซึ่งตนเองก็เพิ่งทราบว่า จริงๆ คดีนี้ มีความลึกซึ้ง และผิดปกติ หลังจากที่ แป้งได้อัดคลิปตัดพ้อ ว่า ตัวเองถูกหักหลัง ติดคุกเพียงคนเดียว ทั้งๆที่ไปกับพวกประมาณ 20 คน แต่ทุกคนกลับถูกสั่งไม่ฟ้อง แป้งโดนคนเดียว รวมไปถึงคดียังไปเกี่ยวพันไปถึง อัยการรายหนึ่ง ซึ่งในฐานะทนายความ ก็อยากให้รื้อคดีขึ้นมาตรวจสอบใหม่
ส่วนคดีที่ 2 ที่แป้งต้องหา คือ คดีร่วมกันพยายามฆ่าผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน ซึ่งจริงๆแล้ว ศาลชั้นต้นจะมีนัดอ่านคำพิพากษา 20 พ.ย. ที่ผ่านมา แต่ไม่ทันได้อ่านก่อน แป้งก็หนีออกจากเรือนจำ
ตัวเองพอเข้าใจถึงเหตุผลที่เสี่ยแป้งต้องหลบหนีออกจากเรือนจำเพื่อมาเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตัวเอง โดยที่ผ่านมา หลายครั้งตนเองได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมแป้งภายในเรือนจำ แป้งมักจะพูดกับผมเสมอว่า “อาจารย์ช่วยประกันตัวผมออกไปหน่อย อาจารย์ทำไมผมถึงไม่ได้ประกันตัวออกไป” เพราะคดีทั้งสอง คำฟ้องระบุไว้ว่า “หากจำเลยขอปล่อยตัวชั่วคราว โจทย์ไม่คัดค้าน ขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล” แต่ตนเองก็ไม่อยากก้าวล่วง เพราะศาลลงความเห็นว่าคดีของแป้งนั้นเป็นคดีที่อุกฉกรรจ์ ทำให้แป้งมักจะบ่นตลอดถึงความน้อยเนื้อต่ำใจ เหมือนตัวเองถูกกลั่นแกล้ง ถูกหักหลัง
ส่วนเหตุผลที่แป้งอยากออกจากคุก ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องการออกไปแก้แค้นล้างแค้นใครทั้งสิ้น แต่มีด้วยกันทั้งหมด 2 เหตุผล คือ 1. ขณะที่แป้งจำคุกในเรือนจำ ภรรยาของแป้งท้องแก่จะคลอดลูก แป้งต้องการออกไปอยู่ดูหน้าลูกที่จะคลอดที่โรงพยาบาล แต่แป้งไม่มีโอกาส // และหลังวันที่ภรรยาของแป้งคลอดลูก แป้งก็ไม่มีสิทธิ์ได้พบหน้าลูกเลยสักครั้ง
แป้งได้เจอหน้าลูกครั้งแรก มีอยู่ครั้งหนึ่ง ตนเองจำได้ว่า วันนั้นภรรยาของแป้งได้นำลูกน้อย อายุ 1 เดือน ตัวยังแดงอยู่เลย เดินทางมาที่ศาลด้วย เวลานั้นแป้งรู้ว่า ภรรยาได้นำลูกมาด้วย ด้วยความเป็นพ่อ แป้งได้ลุกขึ้นแถลงต่อศาล ขอความเมตตาจากศาลเพื่อขอเห็นหน้าลูก ครั้งนั้น ศาลท่านได้เมตตาให้แป้งเจอหน้าลูกได้ผ่านห้องพิเศษของเรือนจำ แต่ก็เป็นครั้งเดียว
ส่วนครั้งที่ 2 ตนเองได้เข้าไปเยี่ยมแป้งบอกกับตนเองว่า ช่วยทำเรื่องขอประกันตัวให้หน่อยเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แป้งบอกผมว่า ผมอยากออกไปกราบศพพ่อครั้งสุดท้าย เนื่องจากพ่อของแป้งเสียชีวิต แต่สุดท้ายแป้งก็ไม่ได้ประกันตัว
ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ตนเองเชื่อว่าแป้งอาจจะ รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่ตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่ได้ประกันตัวไปพบกับครอบครัว ซึ่งครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตแป้งมาก ตัวเองเชื่อว่าแป้งไม่มีเจตนาที่จะออกไปแก้แค้นใคร
ส่วนคลิปของเสี่ยแป้งที่เมื่อวานนี้มีการเผยแพร่ออกมา ตนเองก็เพิ่งทราบพร้อมกับผู้สื่อข่าว และตกใจกับเหตุการณ์เกิดที่ขึ้น ซึ่งตัวละคร ที่แป้งได้พูดชื่อในคลิป ตนเองก็อยากให้เจ้าหน้าที่รื้อคดีมาตรวจสอบ เพราะเชื่อว่าแป้งคงไม่ได้รับความเป็นธรรมจริงๆ
เช่นเดียวกับเอกสารลับ ที่ส่งถึงมือผู้สื่อข่าว เกี่ยวกับเรื่องนักโทษอีกจำนวน 393 คน และตัวนักโทษ นายจตุพล หรือ แกร็ก ที่แป้งเป็นตัวแทนพวกเขาการเดินเรื่องขอความเป็นธรรม ตัวเองก็อยากให้ตรวจสอบด้วย เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้เรื่องไปถึงไหนแล้ว
ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนเองก็เคยได้รับหนังสือร้องเรียนจากนายจตุพล เช่นเดียวกัน โดยมีญาติของนายจตุพลมามอบให้ โดยลายมือที่เขียนเป็นลายมือของเสี่ยแป้ง ที่เป็นคนเขียนคำร้องให้กับนายจตุพล ซึ่งเข้าใจว่า ทั้งสองเป็นเพื่อนนักโทษอยู่ด้วยกัน โดยหนังสือคำร้องเรียนนั้น ยังมีรายชื่อของนักโทษอีกจำนวน 393 คน ที่ ไม่ได้ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทั้งหมดร้องเรียน มีเพียงนายเดียว คือ พันตำรวจโทวิรัตน์ มือปราบยาเสพติดมือ 1 จ.พัทลุง
และหลังจากได้รับหนังสือร้องเรียนฉบับดังกล่าวแล้วตนเองได้เดินทางไปที่เรือนจำเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกับตัวนายจตุพล รวมถึง นักโทษอีกจำนวนหนึ่งที่อยู่ในรายชื่อ 393 รายชื่อ ที่ถูกตำรวจนายดังกล่าวจับดำเนินคดีด้วย ซึ่งทุกรายล้วนแต่ยืนยันว่า ถูกนายตำรวจนายดังกล่าว กลั้นแกล้งและรีดไถเงินไปจริงๆ จากนั้นตัวเองจึงได้ทำเรื่องสอบถามไปยังหน่วยงาน ทั้ง ปปช. และสำนักนายกฯรัฐมนตรี รับเรื่องร้องเรียนแล้วแต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดใด หรือ มีการตรวจสอบไปแล้ว
และสุดท้ายนี้ตนเองอยากฝากไปถึงเสี่ยแป้งหากเห็นข่าวอยู่ ในฐานะที่ตัวเองเคยเป็นทนายความให้กับแป้ง ผมอยากให้แป้งกลับมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ สิ่งที่แป้ง พูดในคลิปว่า “ความยุติธรรมไม่มีอยู่จริง” แป้งอาจจะมองในมุมมองของแป้ง เพราะแป้งอาจจะน้อยเนื้อต่ำใจ แต่ตนเองยังคงเชื่อว่า ประเทศไทยยังมีความยุติธรรมอยู่จริง อยากให้แป้งกลับมาสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งหากแป้งต้องการมอบตัวก็ขอให้แป้งติดต่อมาที่ตนเองได้ ตนเองพร้อมที่จะช่วยเหลือแป้งเรื่องคดีทุกอย่างจนถึงที่สุด ขอให้แป้งกลับตัวกลับใจ