จากกรณีวานนี้ทีมข่าว MONO เจาะข่าวเด็ด พูดคุยกับศิษย์เก่าอุเทนถวายฯ รายหนึ่งซึ่งมั่นใจว่า ครั้งนี้เป็นการเอาคืนจากเหตุที่เคยเกิดขึ้นต้นปี โดยกลุ่มที่ก่อเหตุเหล่านี้จะล็อกเป้าหมายไว้หลายคนแบ่งหน้าที่กันทำ โดยเริ่มตั้งแต่ทีมดูเส้นทางการก่อเหตุ-เส้นทางหลบหนี วิเคราะห์โอกาสที่จะทำสำเร็จ หากมองว่าจะสามารถจัดการเป้าหมายไหนได้สำเร็จก็จะจัดการที่เป้าหมายนั้น และอาจจะมีการซักซ้อมก่อนก่อเหตุด้วย
นอกจากนี้ ศิษย์เก่าอุเทนยังตั้งข้อสังเกตหลังตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยร่วมก่อเหตุได้ 8 คน ว่า ในจำนวนนี้อาจมีบางคนที่เป็นระดับผู้บงการ บางคนก็น่าจะเคยก่อเหตุในคดีอื่นมาแล้ว เพราะมี 1 คน น่าสนใจ โดยคนที่ถูกจับเมื่อวาน หากสังเกตดีๆ มี 1 คน ที่มีรอยปั๊มรูปเฟืองที่ไหล่ ถึง 4 รอย ปกติแล้วเด็กช่างกลเกือบทุกคน หลังมีการรับน้องจะถูกปั๊มเฟืองคนละ 1 รอย การปั๊มเฟืองนี้เป็นการนำเหล็กไปเผาไฟแล้วนำไปจี้ที่ตัว เป็นกลยุทธ์ที่รุ่นพี่ต้องการให้รุ่นน้องเกิดความกล้า ยิ่งมีรอยปั๊มเยอะก็เป็นไปได้ว่าอาจเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งหรืออาจเป็นระดับวางแผน
ส่วนจุดสังเกตอีกอย่างคือเสื้อช็อปสีเทา ที่พบภายในห้องพักขณะตำรวจเข้าจับกุม โดยเสื้อช็อปดังกล่าวเป็นเสื้อรุ่นพี่ที่เรียนระดับ ปวส. ซึ่งสถาบันช่างกลในข่าวไม่มีเรียน ปวส.มากว่า 30 ปีแล้ว จึงเป็นไปได้ว่ามีการส่งต่อเสื้อกันรุ่นต่อรุ่น อาจใช้วิธีการสร้างผลงานแลกมา
จากประเด็นดังกล่าว ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (24 พ.ย. 66) เจ้าหน้าที่ขยายผลต่อ โดยพลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า ขณะนี้มีข้อมูลมาว่าแต่ละเฟืองระบุถึงเรื่องราวต่างๆด้วย ว่าเคยก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง มีทั้งบนร่างกายและบนเสื้อช็อป ซึ่งเป็นประเด็นที่แยกย่อยออกไป ซึ่งต้องตรวจสอบให้ละเอียดต่อไป โดยสิ่งหนึ่งที่พิสูจน์ได้คือ คนที่เข้าทลายที่เซฟเฮ้า โดยส่วนมากจะมีฟันเฟืองบนร่างกาย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นระดับชั้นแนวหน้า