เป็นอีกหนึ่งโครงการของรัฐบาลเศรษฐา ที่ประชาชน ร่วมถึงหลาย ๆ ฝ่าย จับตามองเป็นพิเศษ สำหรับโครงการ Digital Wallet หรือ เงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ซึ่งล่าสุดทางรัฐบาลโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แถลงข่าวถึงความชัดเจน รวมถึงรายละเอียดของโครงการดังกล่าว ไปเมื่อวันที่ 10 พ.ย.66 ที่ผ่านมา
วันนี้ทางทีมข่าว Mono29 ได้สรุปทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับ ‘เงินดิจิทัล 1 หมื่น’ ทั้งเรื่องแหล่งที่มาของเงิน , นำไปใช้จ่ายอะไรได้-ไม่ได้ รวมไปถึงเงื่อนไขต่าง ๆ โครงการการนี้
เงินดิจิทัล 1 หมื่นมาจากไหน?
สำหรับที่มาของงบประมาณโครงการดังกล่าว ใช้การออกพระราชบัญญัติ เป็นวงเงิน 500,000 ล้านบาท โดยในกฤษฎีกาตีความกระบวนการและขั้นตอนต่าง ๆ จากนั้นเสนอต่อรัฐสภา เป็นไปตามมาตรา 53 พรบ.วินัยการเงินการคลังฯ พ.ศ. 2561
ซึ่งรัฐบาลตั้งเป้าจัดสรรงบประมาณเพื่อจ่ายคืนเงินกู้เป็นระยะเวลา 4 ปี และคาดว่า จะนำไปสู่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ 5% เฉลี่ยตลอด 4 ปี
โดยดิจิทัลวอลเล็ตจะเป็นเงินบาท ไม่ใช่การออกเหรียญ หรือการสร้างเงินเหมือนคริปโตเคอเรนซี ไม่สามารถนำมาแจก เทรด แลกเปลี่ยน เก็งกำไรผ่านกระดานเทรดได้
เงินดิจิทัล 1 หมื่น ได้เมื่อไหร่?
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แถลงไว้เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ที่ผ่านมา ถึงนโยบายดิจิทัลวอลเลต 1 หมื่นบาท โดยแผนของการดำเนินการจะทำการเสนอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาดำเนินการ ก่อนที่จะออกเป็น พรบ. เงินกู้ 5 แสนล้านบาท และนำเสนอเข้าสู่รัฐสภา พิจารณาลงมติ โดยนายกฯ มั่นใจว่า จะผ่านการลงมติเหตุชอบในที่สุด ซึ่งจะส่งผลให้สามารถเริ่มโครงการนี้ได้
- เริ่มใช้ได้ตั้งแต่เดือน พ.ค.2567 ถึง เม.ย. 2570
- ระยะเวลา 6 เดือน ไม่ได้ใช้ยกเลิกอัตโนมัติ
ใครบ้าง มีสิทธิ์ได้รับเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท?
สำหรับผู้ที่มีสิทธิ์จะได้รับเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทในโครงการดิจิทัลวอลเลตนั้น ได้แก่
- คนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป
- มีรายได้ไม่เกิน 70,000 บาท
- มีเงินฝากไม่เกิน 500,000 บาท
โดยจะต้องมีการลงทะเบียนยืนยันตัวตน เพื่อรับสิทธิ์เงินดิจิทัล 10,000 บาทในแอปฯ เป๋าตัง ซึ่งคาดว่า จะเป็นในช่วงเดือนมีนาคม 2567 และจะยึดเอาตามที่อยู่ตามบัตรประชาชน และจะสามารถใช้จ่ายได้ในอำเภอตามที่อยู่ในบัตรประชาชนเท่านั้น
นอกจากนี้ ผู้ที่สามารถลงทะเบียนยังไม่จำกัดอาชีพ ซึ่งทำให้พระสงฆ์ หรือผู้ที่บวชอยู่ก็สามารถลงทะเบียนในโครงการนี้ได้อีกด้วย
เงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ซื้ออะไรได้บ้าง?
หากโครงการดิจิทัลวอลเลตนี้ ผ่านสภาเป็นที่เรียบร้อย และเริ่มเติมเงินเข้าสู่ระบบ “เป๋าตัง” แล้ว ประชาชนสามารถจำนำไปใช้จ่ายได้ โดย สามารถจะใช้ซื้อสินค้า อาหาร เครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภคได้จากร้านค้า ที่ตั้งอยู่ในอำเภอเดียวกัน ตามที่อยู่ในบัตรประชาชนของผู้ที่ได้รับเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท
โดยข้อกำหนดนั้นจะต้องเป็นการจ่ายเงินแบบ Face to Face หรือ เป็นการจ่ายเงินต่อหน้าเท่านั้น
เงินดิจิทัลซื้ออะไรไม่ได้บ้าง?
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อกำหนดในการซื้อสินค้าต่าง ๆ ในร้านที่ลงทะเบียนไว้ถึงสินค้า และบริการต่าง ๆ ที่จะสามารถชำระด้วยเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทที่จะไม่สามารถซื้อได้คือ
- ซื้อสินค้าออนไลน์ไม่ได้
- ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้
- ซื้อยาสูบ กระท่อม กัญชาไม่ได้
- ซื้อบัตรกำนัล เพชร พลอย ทองคำ ไม่ได้
- ชำระหนี้ไม่ได้
- ชำระค่าเทอม ค่าเรียนได้
- จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ไม่ได้
- ซื้อค่าน้ำมันเชื้อเพลิง – แก๊สไม่ได้
- แลกเป็นเงินสดไม่ได้
- แลกเปลี่ยนในตลาดต่าง ๆ ไม่ได้
ข้อกำหนดอื่น ๆ ของเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท
- ใช้กับร้านนอกอำเภอตามบัตร ปชช. ไม่ได้
- จ่ายเงินต่อหน้า, ตัวต่อตัว เท่านั้น
- นำไปเทรดแลกเปลี่ยนกันไม่ได้
ใช้ผ่านแอปฯ อะไร?
สำหรับการใช้จ่ายเงินดิจิทัลหนึ่งหมื่นบาท ในโครงการนี้ จะใช้ผ่านระบบของแอปฯ เป๋าตัง เป็นหลัก ในการสแกนจ่าย เหมือนเช่นเดิม ซึ่งจะมีการพัฒนาระบบให้มีการใช้บล็อกเซนเป็นระบบหลังบ้านของการทำงาน เพื่อป้องกันการโกงเงินอีกด้วย
ร้านค้าลงทะเบียนอย่างไร?
สำหรับร้านค้าที่ต้องการเข้าร่วมรับเงินในโครงการดิจิทัลวอลเลตนี้ จะเปิดโอกาสให้กับร้านค้าทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น ร้านขายของชำ รถเข็นขายอาหาร หรือร้านอาหารตามสั่ง ซึ่งร้านค้าที่ลงทะเบียนไว้กับแอปฯ เป๋าตัง สามารถเข้าร่วมโครงการได้เช่นเดิม โดยกดลงทะเบียนผ่านแอปฯ ที่จะมีการแจ้งอีกครั้งในภายหลังว่า เปิดรับลงทะเบียนเมื่อใด
- ลงทะเบียนผ่านแอปฯ เป๋าตัง
- ซื้อสินค้าได้ทุกร้านค้า ไม่ได้จำกัด
- ไม่จำเป็นต้องจด VAT แต่ร้านที่อยู่ในระบบภาษี
- โดยร้านค้าที่จะขึ้นเงินได้ต้องอยู่ในระบบภาษีเท่านั้น