คัดลอก URL แล้ว
ทลายร้านนวดสปาเด็กชาย แอบแฝงการค้าประเวณี

ทลายร้านนวดสปาเด็กชาย แอบแฝงการค้าประเวณี

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจับกุม นายศักดากิจ อายุ 43 ปี นายคำสะหวัด อายุ 30 ปี สัญชาติลาว ที่ ร้านนวดสปาฯ ย่านลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร ในความผิดฐาน สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ และถ้าผู้ที่สมคบกันกระทำความผิดคนหนึ่งคนใดได้ลงมือกระทำความผิดตามที่ได้สมคบ , ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปค้ามนุษย์โดยเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขังจัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก โดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหา ประโยชน์โดยมิชอบในรูปแบบการค้าประเวณี โดยได้กระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี ฯลฯ

โดยเจ้าหน้าที่สามารถขยายผลจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มเติมคือ นายอนุชาฯ อายุ 26 ปี ฐานความผิด สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สอง คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ และถ้าผู้ที่สมคบกันกระทำความผิดคนหนึ่งคนใดได้ลงมือกระทำ ความผิดตามที่ได้สมคบ , ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปค้ามนุษย์โดยเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขังจัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก โดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบในรูปแบบการค้าประเวณี โดยได้กระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี ฯลฯ

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม.ได้รับแจ้งจาก มูลนิธิเพื่ออิสรภาพ (The Exodus Road) ว่าพบร้านนวดสปา แห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว มีการเปิดเป็นร้านนวดบังหน้า และนำเด็กชายอายุต่ำกว่า 18 ปี มาค้าประเวณีภายในร้าน โดยมีการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์ว่ามีเด็กชายหน้าตาดี ให้บริการนวดอยู่ภายในร้าน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคม. ร่วมกับ สน.โชคชัย และมูลนิธิเพื่ออิสรภาพ (The Exodus Road) ได้วางแผนร่วมกัน ในการปฏิบัติการอำพราง เข้าตรวจสอบภายในร้าน พบ นายคำสะหวัด สัญชาติลาว ผู้ต้องหาที่2 นั่งอยู่บริเวณเคาน์เตอร์ร้าน โดยเป็นผู้ดูแลและจัดการภายในร้าน อีกทั้งยังเป็นผู้รับเงินสดที่เป็นค่าบริการนวด ในลักษณะ มีการแอบแฝงการค้าประเวณี และได้เข้าให้ความช่วยเหลือเด็กชาย สัญชาติเมียนมา อายุต่ำกว่า 18 ปี และนำตัวเข้าคุ้มครองตามกฎหมาย

ต่อมาในวันเดียวกัน ได้พบตัว นายศักดากิจฯ ผู้ต้องหาที่ 1 มาแสดงตัวว่าเป็น ผู้จัดการร้าน และรับว่าทำหน้าที่ในการดูแลจัดการร้าน ร่วมกับนายอนุชาฯ ผู้ต้องหาที่3 รวมทั้งจัดการเรื่องเงินที่เป็นรายได้ที่เกิดจากการแสวงหาประโยชน์จากการนำเด็กชายมาค้าประเวณีภายในร้านและจะส่งเงินต่อให้กับนายอนุชาฯ ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมตัวนายคำสะหวัดฯและนายศักดากิจฯ ไว้สอบปากคำ เพื่อขยายผล เนื่องจากขณะนั้นไม่เจอตัวนายอนุชาฯ

พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานและขอศาลออกหมายจับนายอนุชาฯ และตามจับกุมไว้ได้ บริเวณ ถนนลาดพร้าว แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร ก่อนจับกุมตัว นายอนุชาฯ นำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคม. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ข่าวที่เกี่ยวข้อง