คัดลอก URL แล้ว
“ปศุสัตว์” ยังไม่ฟันธง! เนื้อหมู-เนื้อวัว กว่า 600 กิโลกรัม ย่านดอนเมือง ถูกกฎหมายหรือไม่ ?

“ปศุสัตว์” ยังไม่ฟันธง! เนื้อหมู-เนื้อวัว กว่า 600 กิโลกรัม ย่านดอนเมือง ถูกกฎหมายหรือไม่ ?

นายวรากร จิตรหลัง ปศุสัตว์พื้นที่กรุงเทพมหานคร กรมปศุสัตว์ ลงพื้นที่บริเวณจุดตรวจค้น อาคารภายในพื้นที่ซอยประชาอุทิศ เขตดอนเมือง 2 จุด หลังเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เข้าตรวจค้น หลังพบมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับตู้คอนเทนเนอร์ กว่า 20 ตู้ จากทั้งหมด 161 ตู้ที่ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ

นายวรากร เปิดเผยว่า จากการเข้าตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบเนื้อหมูจำนวน 642 กิโลกรัม และเนื้อวัวประมาณกว่า 40 กิโลกรัม พบสติ๊กเกอร์ระบุว่าเป็นเนื้อหมูมาจากประเทศฝั่งยุโรป 20 กล่อง น้ำหนักประมาณ 200 กิโลกรัม ส่วนที่เหลือคาดว่าเป็นเนื้อหมูและเนื้อวัวภายในประเทศ

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ทางบริษัทนำเอกสารการเคลื่อนย้ายมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ แต่ทางบริษัทแจ้งว่ายังหาเอกสารดังกล่าวไม่พบ โดยอ้างว่ามีการนำเข้าอย่างถูกต้อง ทางกรมปศุสัตว์จึงมีกรอบเวลา 7 วันให้ทางบริษัทนำเอกสารเข้ามาชี้แจงกับทางกรมปศุสัตว์และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ โดยวันนี้เจ้าหน้าที่จะต้องทำการอายัดเนื้อสัตว์ทั้งหมดไว้ก่อน เพื่อรอก่อนยืนยันแหล่งที่มา
แต่หากทางบริษัทไม่สามารถนำเอกสารมาแสดง และชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่ได้จะต้องถูกดำเนินคดีตาม พระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ และ พระราชบัญญัติการควบคุมจำหน่ายเนื้อสัตว์

โดยนายวรากรได้กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบเอกสารข้อมูลการนำเนื้อหมูเนื้อวัวจากท่าเรือ ที่ทางบริษัทนำเอกสารบางส่วนมาสำแดงให้เจ้าหน้าที่ดูนั้น ยังไม่ตรงกับข้อมูลที่มี จึงต้องรอตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้จึงยังไม่สามารถระบุได้ว่า เนื้อสัตว์ที่ตรวจพบทั้งหมดนั้นเป็นเนื้อสัตว์ที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่

ด้านพันตำรวจตรีณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษด้านคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน 161 ตู้ เปิดเผยว่า ทั้งสองบริษัท 2 จุดตรวจค้น เกี่ยวข้องกับบริษัทชิปปิ้ง 2 บริษัท ที่ทางดีเอสไอ เคยจับกุมก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริษัทชิปปิ้งสั่งเนื้อหมูจากต่างประเทศทั้งประเทศแถบในยุโรป และอเมริกาใต้ ซึ่งจากการตรวจค้นพบเอกสารที่สำคัญและจะเป็นประโยชน์ในการรวบรวมพยานหลักฐานในคดี และจะสามารถขยายผลถึงกลุ่มบุคคลที่ซื้อชิ้นส่วนของสุกร ทั้งเครื่องใน ส่วนเนื้อ และหมูสามชั้น ที่ทางบริษัทนี้ได้จำหน่ายไป จะมีการสืบสวนขยายผลต่อไป

โดยหลักฐานที่พบวันนี้ เป็นหลักฐานเกี่ยวกับการนำสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทย และยังมีการตกค้างที่ท่าเรือแหลมฉบัง รวมทั้งที่มีการจำหน่ายออกไปแล้ว ซึ่งพบว่ามีการเชื่อมโยงทั้งเนื้อสัตว์ที่อยู่ในตู้คอนเทนเนอร์จำนวน 161 ตู้ และสินค้าที่ออกไปแล้วกว่า 2,385 ตู้ แต่ใน 2,385 ตู้ เป็นเนื้อหมูจากหลายบริษัทที่ทางดีเอสไอกำลังตรวจสอบอยู่

ในส่วนของผู้จัดการบริษัท ที่เจ้าหน้าที่ได้พบวันนี้ ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการให้ตรวจสอบเอกสารของทางบริษัท ซึ่งทางดีเอสไอจะนำเอกสารทั้งหมดหลาย 10 ลังที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าหมูเถื่อน ตั้งแต่ปี 2564ถึงปัจจุบัน ไปตรวจสอบว่ามีอะไรเกี่ยวข้องบ้างกับการนำเข้าและจำหน่ายเนื้อหมูเถื่อน


ข่าวที่เกี่ยวข้อง