“นิติธร” ขอเยี่ยม “ทักษิณ” ถามหาบัตรนักโทษ ด้านรองนายแพทย์ใหญ่ ชี้แจงกรมราชทัณฑ์เป็นผู้ประเมินอาการว่าให้รักษาในรพ.ต่อหรือไม่ แพทย์ทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยเท่านั้น
กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดย นายนิติธร ล้ำเหลือ แกนนำเครือข่าย คปท. นายพิชิต ไชยมงคล และนายนัสเซอร์ ยีหมะ รวมตัวจัดกกิจกรรมทวงคืนความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในสังคมไทยและจะขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ปัจจุบันเป็นผู้ต้องขังเด็ดขาดชั้นดี ซึ่งอยู่ระหว่างการนอนพักรักษาตัวภายนอกเรือนจำ ที่อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา รพ.ตำรวจ เนื่องจากป่วยด้วย 4 โรค ได้แก่ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด พังผืดในปอด ความดันโลหิตสูง และกระดูกสันหลังเสื่อม หลังเข้ารักษาตัวครบ 60 วัน เมื่อวานที่ผ่านมา (21 ต.ค.) โดยปักหลักชุมนุมบริเวณฝั่งตรงข้ามรพ.ตำรวจ ถนนพระรามที่1
จากนั้นได้ส่งตัวแทนไปเจรจาเพื่อขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ โดยมี พ.ต.ท.ณัฐกิตติ์ ปิ่นทองดี รองผกก.ป.สน.ปทุมวัน พร้อมด้วยตำรวจเวรอำนวยการรพ.ตำรวจ พูดคุยกับตัวแทนกลุ่มเครือข่าย คปท. โดยทางกลุ่มให้เวลา10 นาทีในการรอตำรวจให้คำตอบ
จนเวลา 15.30 น. นายนิติธร หรือทนายนกเขา ได้เดินข้ามไปทวงถามคำตอบซึ่งมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มาชี้แจง พร้อมกับตำรวจพยายามชี้แจงร่วมด้วย นายนิติธรได้สอบถามการทำบัตรนักโทษ เจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ชี้แจงว่ามีหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น และขอให้ไปสอบถามที่กรมราชทัณฑ์อีกครั้ง
เมื่อไม่ได้รับคำตอบ นายนิติธร ประกาศว่า หากวันนี้ไม่ได้คำตอบ จะปักหลักค้างคืนหน้าโรงพยาบาลตำรวจ และพร้อมจะนำสิทธิเสรีภาพของตัวเองแลกกับกฎหมายไทย
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ได้รับการยืนยันว่าได้ประสานผอ.ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจแล้ว แต่จะให้เข้าพบได้กี่โมงนั้น ขึ้นอยู่กับทาง ผอ.และจะให้ใครเข้าพบบ้าง ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจเช่นเดียวกัน การจะให้เข้าไปทั้งหมดเป็นไปไม่ได้ เพราะจะเป็นการรบกวนผู้ป่วยคนอื่น
ต่อมาเวลา 16.45น. ตำรวจได้เชิญตัว นายนิติธร พร้อมพวก เข้าไปภายในอาคารของโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อพูดคุย กระทั่งเวลา 17.10 น. หลังใช้เวลาพูดคุยประมาณ 25นาที นายนิติธร ได้ออกมาเปิดเผย ว่า ได้ไปพบพูดคุยกับ รองศาสตราจารย์ พลตำรวจตรี กิตติ์ธนทัต เลอวงศ์รัตน์ รองนายแพทย์ใหญ่ ซึ่งได้มีการชี้แจงว่า โรงพยาบาลตำรวจมีหน้าที่ดูแลคนไข้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนวิธีการประเมินอาการเจ็บป่วย เป็นเรื่องของกรมราชทัณฑ์ที่ต้องชี้แจง รวมทั้งเรื่องการประเมินอาการให้รักษาต่อที่โรงพยาบาลก็เป็นเรื่องกรมราชทัณฑ์เช่นกัน
ยืนยันว่า โรงพยาบาลไม่ได้ลงความเห็นว่าให้อยู่รักษาต่อ เพราะอยู่ในการประเมินของกรมราชทัณฑ์ว่าจะอยู่ต่อหรือไม่อย่างไร
นายนิติธร มองว่าที่ผ่านมากรมราชทัณฑ์มักจะอ้างเรื่องจรรยาบรรณทางการแพทย์ในการปกปิดอาการของผู้ป่วย ซึ่งอาจทำให้เป็นช่องว่างทางกฎหมายของนักโทษรายอื่น จึงอาจจะมีการเสนอให้แก้กฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดกับนักโทษรายอื่น เช่น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
ส่วนบัตรประจำตัวผู้ต้องขัง กรมราชทัณฑ์ ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนเรื่องนี้ หากมีการทำบัตรผู้ต้องขังจะมีประวัติอาชกรขึ้นในระบบของราชทัณฑ์ ทั้งนี้ ตนจะไปหารือและไปติดตามเรื่องนี้ที่กรมราชทัณฑ์อีกครั้ง