วันนี้ 19 ตุลาคม 2566 เวลา 10.00 น. ที่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน นางสาวรสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา กรุงเทพมหานคร เข้าพบ นางสาวน้อมจิตร์ สังข์ด่าน ที่ปรึกษาการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้แทนประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อยื่นหนังสือ ขอให้ตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้องตามนัย มาตรา 8 ของ พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน ปีพุทธซศักราช 2561 กรณีรัฐบาลเตรียมแจกเงินเงินดิจิทัล 10,000 บาท หนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของนายเศรษฐา ทวีสิน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น
นางสาวรสนา กล่าวว่า โครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของรัฐบาลมีปัญหามิชอบด้วยกฎหมาย และอาจเกิดความเสียหายขึ้นแก่การเงินการคลังของรัฐ อละกังวลว่าจะซ้ำรอยกรณีโครงการรับจำนำข้าวสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เป็นลักษณะสร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติ และผิดต่อวินัยการเงินการคลังของประเทศ
โดยนางสาวรสนา ให้เหตุผลประกอบการยื่นหนังสือไว้ 6 ประการ คือ
- ผลได้ไม่คุ้มเสีย คือ เศรษฐกิจไทยกำลังค่อยๆ ฟื้นตัวตามศักยภาพอยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่รัฐจะต้องใช้จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ
- ขัดต่อพระราชบัญญัติเงินตรา (โดยให้ สตง. ตรวจสอบ ตามที่พรรคเพื่อไทยระบุว่า “กระเป๋าเงินดิจิทัลคือเหรียญ (คูปอง) หรือสิทธิ์การใช้เงิน ไม่ใช่คริปโทเคอเรนซี่ ไม่ใช่เงินสกุลใหม่ แต่เป็นเหรียญ (คูปอง) หรือสิทธิ์การใช้เงิน ที่ใช้ Blockchain ถือเป็นการใช้สกุลเงินใหม่หรือไม่
- เพิ่มความสิ้นเปลืองแก่ประเทศโดยไม่จำเป็น (โดยให้เหตุผลว่า การพัฒนาบล็อกเชนใหม่ รัฐบาลไม่มีความชัดเจนในการพัฒนาระบบใหม่ เพราะมีผู้ให้บริการดิจิทัลวอลเล็ตและโมบายแบงกิ้ง หลายแอปฯ อยู่แล้ว เช่น เป๋าตัง ทรูมันนี เคพลัส เอสซีบี อีซี เป็นต้น ซึ่งจะสามารถรองรับได้ ไม่จำเป็นต้องวร้างระบบใหม่)
- หลีกเลี่ยงหลักการใช้เงินแผ่นดิน (โดยรัฐบาลต้องเสนอในกระบวนการงบประมาณต่อรัฐสภาให้พิจารณาก่อน และอาจจะเข้าข่ายใช้เงินงบประมาณซ้ำซ้อนปีงบประมาณเดิม เนื่องจากงบประมาณใหม่จะไม่ทันการใช้งานดิจิทัลวอลเล็ตเดือนเมษายน ตามที่รัฐบาลแระกาศ หากไม่มีการเสนอโครงการนี้ในกระบวนการงบประมาณต่อรัฐสภา จะเข้าข่ายฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ
- ซุกหนี้สาธารณะ (โดยคาดว่ารัฐบาลจะใช้วิธีให้ธนาคารออมสินกู้หนี้ไปก่อน แล้วรัฐบาลจึงค่อยจัดเงินจากงบประมาณชดใช้ในภายหลัง จึงมองว่า การกระทำลักษณะนี้ผิดวัตถุประสงค์ของธนาคาร
- ขัดกับ พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 มาตรา 9 วรรค 3 จึงขอให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบเป็นการเร่งด่วน เพื่อระงับหรือยับยั้งการดำเนินการดังกล่าวตามมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2561
ภายหลังการยื่นหนังสือ นางรสนา เปิดเผยว่า การยื่นหนังสือครั้งนี้ ถือเป็นการทำหน้าที่ของพลเมืองคนหนึ่งในการปรามเหตุ ก่อนจะเกิดความเสียหายกับประเทศ ยืนยันว่าไม่ได้มีเป้าหมายจ้องดิสเครดิตรัฐบาล แต่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง สตง. กกต. และ ปปช. ใช้อำนาจและกฎหมายตรวจสอบให้รอบคอบ
ทั้งนี้ ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน จะรับข้อเสนอไว้แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากโครงการดังกล่าวยังไม่ผ่าน มติ ครม. และยังไม่เป็นนโยบายของรัฐบาลที่มีการเบิกจ่ายเงินแผ่นดิน