คัดลอก URL แล้ว
ร้านกล้วยทอด เผย รถรพ.ซื้อกล้วยจริงแต่สั่งล่วงหน้ามา-ไม่ได้จอดซื้อ แค่ชะลอแล้วยื่นส่งให้

ร้านกล้วยทอด เผย รถรพ.ซื้อกล้วยจริงแต่สั่งล่วงหน้ามา-ไม่ได้จอดซื้อ แค่ชะลอแล้วยื่นส่งให้

เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวในโลกออนไลน์ที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ช่างแม่ง เถอะ เผยแพร่คลิปที่เกิดขึ้นยังโรงพยาบาล เมื่อหญิงสาวคนดังกล่าวพร้อมคุณแม่และหลานชาย มาทวงถามถึงเหตุผลจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลที่พาคุณพ่อที่ไม่สบายมาส่งโรงพยาบาลล่าช้า เนื่องจากแวะซื้อกล้วยทอดระหว่างทาง เมื่อไม่ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่จึงได้นำคลิปดังกล่าวโพสลงเฟซบุ๊ก ก่อนเข้าร้องกับเพจเรื่องจริงนครนายก เพื่อให้ช่วยติดตามทวงถามความเป็นธรรมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเหตุการณ์ในคลิปลูกสาวของผู้ป่วยได้เผยแพร่คลิปขณะทวงถามกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลที่ขับรถไปรับคุณพ่อมาส่งโรงพยาบาล แต่ระหว่างทางได้แวะซื้อกล้วยทอด ทั้งที่คนป่วยยังอยู่ในรถและรอนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน

ด้านน.ส.สุชาดา น้ำมะลิ อายุ 32 ปี ลูกสาวคนป่วย ระบุว่า วันเกิดเหตุนายสมหมาย คุณพ่อป่วยอยู่บ้านใน อ.เมืองนครนายก จึงให้หลานชายโทรหากู้ภัย และโทร.1669 ก่อนมีรถโรงพยาบาลมารับ โดยตอนนั้นคุณพ่ออาการหนักแล้ว ระหว่างที่รอรถพยาบาลมารับ เจ้าหน้าที่ก็เริ่มพูดไม่ดีบอกว่ากำลังรีบไปรับ แต่น้องชายบอกว่ายังไม่เห็นรถพยาบาลมาเลย

ลูกสาวคนป่วยระบุอีกว่า ต่อมาเมื่อรถพยาบาลมาถึงบ้าน พ่ออาการเริ่มวิกฤตแล้ว ก่อนพาพ่อขึ้นรถพยาบาล เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาล ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ถามอาการคุณพ่อว่าอาการเป็นอย่างไรบ้าง ถ้า 100 คะแนน อาการให้กี่คะแนน พ่อก็บอกว่าตอนนี้เหลือ 8 คะแนนแล้ว เนื่องจากอาการหนักมาก เพราะป่วยหลายโรคมาก

ลูกสาวเผยอีกว่า เมื่อนำพ่อขึ้นรถพยาบาลแล้ว เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่ให้หลานชายขึ้นรถพยาบาลไปด้วย ต้องเป็นผู้ใหญ่ที่ต้องขึ้นรถพยาบาลไปด้วยกัน หากให้เด็กไปจะไม่สามารถทำการรักษาได้ ทั้งที่หลานชายก็อายุ 22 ปีแล้ว สามารถเซ็นเอกสารและตัดสินใจได้ ตนจึงบอกงั้นเดี๋ยวขึ้นรถไปเอง แต่เมื่อเข้าบ้านไปเปลี่ยนชุดออกมารถพยาบาลก็ออกไปแล้ว เพื่อพาพ่อไปโรงพยาบาล

ลูกสาวคนป่วย กล่าวอีกว่า ระหว่างรถพยาบาลนำตัวพ่อที่ป่วยส่งโรงพยาบาล หลานชายที่อยู่บนรถเล่าว่า รถพยาบาลเหมือนชะลอดูต้นไม้ และได้ยินคนบนรถพูดว่า “ต้นไม้สวยดี” ซึ่งเป็นต้นไม้บริเวณปากซอยบ้าน ทั้งที่ตอนนั้นพ่อยังป่วยขั้นวิกฤตอยู่บนรถ

ลูกสาวคนป่วยเผยว่า ไม่หมดแค่นั้นระหว่างทางนำพ่อไปโรงพยาบาล รถพยาบาลยังแวะเอากล้วยทอดระหว่างทางไปโรงพยาบาลอีก ซึ่งน้องชายอยู่บนรถก็บอกว่ารถพยาบาลจอดชะลอเอากล้วยทอดด้วย จึงทวงถามความเป็นธรรมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามคลิปที่ปรากฏ

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ และไม่มีใครออกมาพูดคุยหรือชี้แจงอะไร ลูกสาวจึงได้ร้องขอความเป็นธรรมกับทางเพจเรื่องจริงนครนายก เมื่อทางเพจได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว จึงได้ส่งทีมลงพื้นที่พร้อมผู้สื่อข่าว เข้าสอบถามข้อเท็จจริงจากทางร้านกล้วยทอดดังกล่าว ว่าทางรถ รพ. ได้มาหยุดซื้อกล้วยทอดหรือไม่ ซึ่งทางร้านได้ตอบว่า มีการมาจริง ซึ่งเป็นการสั่งล่วงหน้ามา ไม่ได้มาจอดซื้อ เมื่อผ่านมาทางร้านก็ได้วิ่งเอาออกไปให้ โดยไม่ได้มีการหยุดรถแต่อย่างใด เพียงแค่ชะลอแล้วส่งให้เท่านั้น

ต่อมาทางทีมเพจเรื่องจริงนครนายก และผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับผู้ป่วย และหลานของผู้ป่วยที่ได้เดินทางมากับรถโรงพยาบาลในวันดังกล่าว สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทางหลานของผู้ป่วยนั้น ได้ยืนยันว่า รถได้จอดจริง ซึ่งก่อนจะจอด รถได้มีการชะลอ เพื่อรอคนส่งกล้วยทอดวิ่งข้ามถนน มายืนรอส่งกล้วยทอด เมื่อถึงจุดที่คนส่งกล้วยทอดรออยู่ คนที่มาส่งนั้นได้ส่งให้กับเจ้าหน้าที่พยาบาล ที่อยู่ภายในรถตู้ โดยเปิดประตูสไลด์ ด้านข้างตัวรถ ส่งให้ และได้มีการพูดคุยกันนิดหน่อย ซึ่งใช้เวลาในการจอดประมาณ 1-2 นาที ก่อนจะเคลื่อนตัวรถออก ซึ่งลูกสาวของผู้ป่วยได้ขับรถตามหลังมา แต่ติดไฟแดงอยู่ แต่ก็ยืนยันว่ามองข้ามไฟแดงมาก็เห็นท้ายรถของโรงพยาบาลจอดอยู่จริง ซึ่งตอนแรกลูกสาวก็คิดว่ารถติดทำถนนอยู่หรือป่าว จนได้มาถามกับหลานผู้ป่วยที่นั่งมาในรถ ว่ารถจอดทำไมก่อนหลานจะบอกว่าจอดซื้อกล้วยทอด

ต่อมาทีมเพจเรื่องจริงนครนายก และผู้สื่อข่าว ได้สอบถามกับทางโรงพยาบาลถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งทางโรงพยาบาลได้แจ้งว่า

เบื้องต้นผู้บริหารโรงพยาบาลนครนายกได้รับทราบข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในคลิปวีดีโอดังกล่าวแล้ว ทางโรงพยาบาลนครนายก ไม่ได้นิ่งนอนใจ และไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นนี้ และขอเรียนให้ทราบว่า เรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงในการปฏิบัติหน้าที่ ของเจ้าหน้าที่ ผู้ให้บริการ ซึ่งจะมีการเรียกสอบเข้มในวันจันทร์ที่ 16 ต.ค. 66 นี้ จากเหตุการณ์ครั้งนี้ และที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลได้มีการฝึกอบรมทางด้านจริยธรรมวิชาชีพการให้บริการอย่างเข้มงวด อย่างสม่ำเสมอ และขอเรียนให้ทราบว่าขณะนี้ผู้ป่วยอยู่ในความดูแลของแพทย์ และพยาบาล ซึ่งรายงานจากผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อวินิจฉัยโรค ไม่พบภาวะหัวใจขาดเลือด อาการทั่วไปคงที่ ขณะนี้ให้ผู้ป่วยพักรักษาตัวกลับไปรักษาตัวที่บ้านต่อไป


ข่าวที่เกี่ยวข้อง