วันที่ 11 ต.ค.66 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.หญิง กรแก้ว ประหยัดทรัพย์ สว.(สอบสวน) กก.5 บก.ปปป. เพื่อแจ้งเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐกระทำผิดจำนวน 2 คดี โดยนำพยานหลักฐานมามอบให้พนักงานสอบสวนประกอบการพิจารณา
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เรื่องเป็นการแจ้งเอาผิด อธิบดีกรมปศุสัตว์ กับ พวก ในความผิดฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา157 หลังพบว่า ก่อนหน้านี้ทางกรมศุลกากร ได้ตรวจยึดเนื้อและหมูเถื่อนที่มีการลักลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี จำนวน 75 ตู้ มูบค่ากว่า 200 ล้านบาท
แต่เมื่อมีการแจ้งเรื่องไปยัง อธิบดีกรมปศุสัตว์ เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย กลับนิ่งเฉย ไม่ยอมดำเนินการตามขั้นตอน นำเรื่องไปเก็บดองไว้ เหตุเพราะเป็นพรรคพวกของตนเอง และเจ้าตัวเองก็มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับขบวนการเหล่านี้มาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นอธิบดีกรมประมง ซึ่งตนมีข้อมูลหลักฐานพอสมควร
นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่สอง เป็นการแจ้งเอาผิด พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร. ในความผิดตามมาตรา 157 ในกรณีที่มีการจัดสร้างโรงงานผลิตกระสุนปืนจำนวน 12 แห่งทั่วประเทศ อ้างว่าสามารถผลิตกระสุนขนาด 9 มม. ได้ 6 แสนนัดต่อปี และ ขนาด.38 ได้ 6 แสนนัดต่อปี
แต่ปัจจุบันกลับพบว่ากลายเป็นเพียงแค่โรงงานร้าง ไม่สามารถดำเนินการผลิตกระสุนได้จริง อีกทั้งยังพบว่าสัญญาจัดสร้างอาคารโรงงานนั้นก็เป็นการใช้วิธีแบบคัดเลือกคนมาเสนอราคา ไม่ได้ใช้วิธีการเสนอราคายื่นประมูล ผิดหลักกฎหมาย เพราะสามารถฮั้วประมูลกันได้ ซึ่งความผิดในส่วนนี้ค่อนข้างชัดกว่ากรณีของกำนันนกด้วยซ้ำไป
“โครงการดังกล่าวเหมือนกับการเอาเงินงบประมาณไปผลาญเล่น เพราะไม่รู้จะเอาไปทำอะไร แทนที่จะเอาเงินในการจัดสร้างกว่า 200 ล้านบาทนี้ไปช่วยตำรวจชั้นผู้น้อย อีกทั้งยังพบว่าเงินดังกล่าวก็เป็นการโยกมาจากงบประมาณจัดซื้อปืนไฟฟ้า ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ได้จริงและดีกว่า”
นายอัจฉริยะ กล่าว