คัดลอก URL แล้ว
ซ้อนแผนจับเทศกิจดุสิต เรียกรับเงินสินบนผู้ประกอบการ

ซ้อนแผนจับเทศกิจดุสิต เรียกรับเงินสินบนผู้ประกอบการ

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 10 ต.ค.66 ที่ กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รรท.ผบก.ทล. พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รรท.ผบก.ปปป. พร้อมด้วย นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ตัวแทนเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ตัวแทนจากสำนักงานเขตดุสิต กทม. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายสมพงษ์ สิงหวัฒน์ พนักงานเทศกิจ สำนักงานเขตดุสิต เรียกรับเงินค่าดูแลเป็นรายเดือนจากผู้ประกอบการ พร้อมของกลางเงินสดจำนวน 6,000 บาท

พ.ต.อ.ประสงค์ กล่าวว่า เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายหนึ่ง ที่รับงานก่อสร้างโครงการในซอยร่วมจิตต์ เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้ขออนุญาตและได้รับอนุญาต จากสำนักงานเขตดุสิตให้ก่อสร้างถูกต้องครบถ้วนแล้ว ว่าระหว่างก่อสร้างมีเจ้าหน้าที่เทศกิจ นายหนึ่ง ได้เข้ามาแสดงตัวที่ไซต์งานก่อสร้างซอยร่วมจิตต์ เขตดุสิตกรุงเทพมหานคร

โดยอ้างว่าการก่อสร้างมีรถขนอุปกรณ์ก่อสร้าง ที่มิได้จัดสิ่งป้องกันวัสดุ ที่บรรทุกตกหล่นหรือรั่วไหล หรือปลิวบนถนน ต้องจ่ายค่าดูแลเป็นรายเดือน โดยคิดเดือนละ 3,000 บาท ก่อนจะมีการเจรจาต่อรองขอจ่ายเป็นรายปีปีละ 6,000 บาท หลังรับเรื่องเจ้าหน้าที่ชุดจับจึงให้ผู้เสียหายนำเงินดังกล่าว ไปมอบให้ก่อนซ้อนแผนจับกุมตัวได้พร้อมเงินสดของกลางดังกล่าว

พ.ต.อ.ประสงค์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนในชั้นจับกุมเจ้าตัวยอมให้การรับสารภาพว่า เงินของกลางที่พบเป็นของผู้เสียหายจริง แต่เป็นเงินที่ตนจะนำไปเสียค่าปรับให้ไม่ได้เป็นการเรียกรับเงินสินบนหรือข่มขู่ ซึ่งคำให้การเหล่านี้ก็ถือเป็นสิทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหา ส่วนจะทำมาแล้วกี่ครั้ง หรือมีบุคคลอื่นร่วมกระทำผิดด้วยหรือไม่นั้นอยํ่ระหว่างขยายผลตรวจสอบ

ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ถึงแม้ว่ายอดเงินกระทำผิดครั้งนี้จะไม่มาก แต่หากมองภาพรวมการกระทำผิดในลักษณะเดียวกันที่มีเกือบทั่วประเทศก็จะถือเป็นจำนวนความเสียหายที่ค่อนข้างมาก จึงไม่ควรปล่อยผ่าน ต้องดำเนินการให้เป็นเยี่ยงอย่างเพื่อที่จะได้ไม่มีใครกล้าทำผิดอีก

ขณะที่ตัวแทนจาก สำนักงานเขตดุสิต กทม. กล่าวว่า สำหรับเรื่องดังกล่าว ทาง กทม. เองไม่ได้นิ่งเฉย มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ พร้อมกับสั่งให้พักราชการตัวผู้กระทำผิด ส่วนมาตรการป้องกันนั้น ก่อนหน้าทาง กทม. ได้มีการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียน เฉพาะห้วงเวลา 7-8 เดือนที่ผ่านมา มีผู้แจ้งเรื่องเข้ามากว่า 250 เรื่อง ซึ่งได้มีการประสานหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง