นายนิพล มั่งมูล ชาวบ้านหนองปรือ ต.กลันทา อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ อดีตครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในจ.ขอนแก่น เข้าไปแจ้งความกับ พ.ต.ท ไชยา สระโสม รองผกก.(หัวหน้าพนักงานสอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์
นายนิพล เล่าว่า รับราชการครูสอนอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น เมื่อปี 2563 ได้ขี่รถจักรยานยนต์ประสบอุบัติเหตุทำให้ร่างกายพิการ ไม่สามารถสอนหนังสือได้ จึงจำเป็นต้องลาออกมาใช้ชีวิตอยู่บ้านที่จังหวัดบุรีรัมย์
ต่อมาภรรยาที่อยู่ด้วยกันหนีไป เพราะทนอยู่กับคนพิการไม่ได้ ปล่อยให้อยู่กับลูกชายอายุ 20 ปีตามลำพัง แต่ยังมีความหวังว่าอาจจะรักษาตัวหายแล้วขอเข้ารับราชการคืน
จนปลายเดือนที่ผ่านมา ตัดสินใจขายที่นาจำนวน 6 ไร่ ของพ่อที่มีอยู่ ได้เงินมา 1,300,000 บาท ใส่บัญชีตัวเองไว้ แต่เงินที่ขายที่ดินได้ จะต้องเตรียมเอาไปใช้หนี้แทนน้าชายที่เอาที่ดินของตัวเองไปจำนองอีก 1,200,000 บาท ตั้งเป้าหมายจะเอาเงิน 1 แสนที่เหลือไปรักษาตัวเองให้ดีขึ้น
จนเช้าวันนี้ (2ต.ค.66) มีโทรศัพท์เข้ามาบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มีความประสงค์จะคืนเงินค่ามิเตอร์ให้เดือนละ 800 บาท ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา แล้วหลอกให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นของการไฟฟ้าแต่ทำเองไม่ได้ จึงให้ลูกชายทำรายการต่อ สุดท้ายเงินจำนวน 1.3 ล้านบาท โดนดูดเอาไปทั้งหมด เหลือเงินติดบัญชีที่ปรากฏ 30 สตางค์เท่านั้น ด้านพนักงานสอบสวน ทำการตรวจสอบชื่อบัญชีที่รับโอนเงินพบว่าเป็นบัญชีรับโอนของ”นายอุเทน…….”แต่ปรากฏว่าเงินในบัญชีได้ถูกถ่ายโอนไปเรียบร้อยแล้ว
ที่ผ่านมามิจฉาชีพ มักแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า จะคืนเงินค่ามิเตอร์ให้ โดยจะให้เหยื่อแอดเพิ่มเป็นเพื่อนใน Line จากนั้นจะหลอกขอข้อมูลบัตรประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ สมุดบัญชี เพื่อถอนเงินจากบัญชี ที่ผ่านมาการไฟฟ้า แจ้งเตือนว่าไม่เคยมีนโยบายโทรศัพท์หรือติดต่อผ่านline เพื่อคืนเงินค่ามิเตอร์ไฟฟ้าแต่อย่างใด
#แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #หลอกโอนเงิน #แอปดูดเงิน #ข่าววันนี้ #mononews #ข่าวโมโน
