วันนี้ (27 ก.ย.66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองบัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดตัวทีมทนายเพื่อที่จะต่อสู้คดี กรณีถูกชุดปฏิบัตินำหมายศาลบุกตรวจค้นบ้านพัก โดยแต่งตั้งให้ นายอนันต์ชัย ไชยเดช เป็นหัวหน้าทีมทนายความในครั้งนี้
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า วันนี้ได้มอบหมายให้ทนายเข้ามาช่วยคดีในประเด็น การขอหมายจับ พ.ต.ต.ชานนท์ อ่อมทร ที่มองว่าเป็นการหลอกศาล เพราะการขอหมายจับตำรวจต้องไปขอที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ซึ่งต้องระบุยศตำรวจ จากนั้นศาลจะพิจารณาและออกหมายเรียก แต่ครั้งนี้กลับไปขอหมายจับที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ และไม่ระบุยศ รวมถึงเป็นการขอหมายจับตำรวจรวมกับพลเรือน
เช่นเดียวกับหมายค้นบ้านที่ไปขอจากศาลอาญารัชดา โดยไม่ได้ระบุว่าเป็นบ้านของใคร แม้ว่าบ้านจะเป็นชื่อเฮียแต๋ม แต่เชื่อว่าชุดสืบสวนน่าจะมีข้อมูลว่าตัวเองพักอยู่ที่บ้านหลังนี้
ส่วนการจ่ายเงินให้กับนักข่าว 4 คน นั้นยืนยันไม่ได้เป็นการติดสินบน แต่เป็นน้ำใจส่วนตัวที่มอบให้กับสื่อมวลชน เพื่อช่วยเป็นค่าอาหาร เป็ยเงินจำนวนประมาณหนึ่งหมื่นบาทต่อครั้งที่มีทำข่าวเท่านั้น
ด้านทนายอนันต์ชัย เปิดเผยว่า การรับทำคดีครั้งนี้ไม่ได้หนักใจเพราะได้พิจารณาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างถี่ถ้วนและมั่นใจ ว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรม เพื่อลดทอนความน่าเชื่อถือของแคนดิเดต เข้าชิง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 14 และเป็นการทำลายชื่อเสียง
ส่วนประเด็นการขอหมายค้นจากศาลนั้น ในฐานะทนายความ มองว่า การนำกำลังชุดคอมมาโดมาบุกบ้านตำรวจระดับนายพล เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ และเชื่อว่าชุดสืบสวนมีข้อมูลอยู่แล้วว่าเป็นบ้านหลังนี้ของใครและมีใครพักอยู่ ดังนั้นการตั้งทีมทนายครั้งนี้ จะแบ่งการทำงานออกเป็น2 ส่วน คือเข้ามาดูการให้สัมภาษณ์ของแต่ละบุคคลผ่านสื่อ ว่ามีประเด็นใดที่พาดพิง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หรือไม่ หากมี ก็จะนำมาพิจารณาดำเนินการฟ้องฐานเข้าข่ายดูหมิ่น หรือทำให้เสื่อมเสีย รวมถึงดำเนินคดีกับผู้ที่เปิดเผยเอกสารทางราชการ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคล บัญชีธนาคาร หลักฐานการโอนเงินต่างๆ
ขณะที่ทีมทนายความอีกส่วนจะช่วยดูสำนวนคดีให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ทั้ง 8 คน ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน และหลังจากนี้การให้สัมภาษณ์ต่างๆ จะต้องผ่านทีมทนายเพื่อเป็นการรักษาภาพลักษณ์ในฐานะรองผบ.ตร.