คัดลอก URL แล้ว
ฉีกสัญญา “บิ๊กโจ๊ก” มหากาพย์วัดบางคลาน (หลวงพ่อเงิน)

ฉีกสัญญา “บิ๊กโจ๊ก” มหากาพย์วัดบางคลาน (หลวงพ่อเงิน)

ชาวบ้านกว่า 100 คน เดินขบวนไปยังวัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน ต.บางคลาน อ.โพทะเล จังหวัดพิจิตร เพื่อขับไล่ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา ให้พ้นจากการเป็นสมาชิกวุฒิสภา  ซึ่งชาวบ้านระบุว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการคัดค้านการดำรงตำแหน่งของพระครูพิสุทธิวราภรณ์ เจ้าอาวาสรูปใหม่ โดยมีพลตรีฉลวย แย้มโพธิ์ใช้ อดีต ผู้สมัครสมาชิกสภาราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ และ อนุกรรมการส่งเสริมคุณธรรมจังหวัดพิจิตร เป็นผู้นำ

โดยกลุ่มชาวบ้านฝ่ายเจ้าอาวาสรูปใหม่ เผชิญหน้ากับกลุ่มที่ต่อต้านซึ่งปิดประตูไม่ให้กลุ่มเดินขบวนเข้าไปได้ ทั้งสองฝ่ายต่างโห่ไล่  แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น  ท่ามกลางการรักษาความสงบจากตำรวจภูธรโพทะเล เกือบ 10 นาย

พลตรีฉลวย เปิดเผยว่า ชาวบ้านบางคลาน ถูกครอบงำจากคนต่างถิ่น โดยเฉพาะ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ที่มีบ้านอยู่ที่อำเภอบึงสามัคคี จังหวัดกำแพงเพชร และมาทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมเช่นการชี้หน้าผู้ว่าพิจิตร พูดจาก้าวร้าวกับพระ จึงอยากให้มีการถอดถอนนายกิตติศักดิ์ นอกจากนั้นยังมีกลุ่มบุคคลที่ทำผิดกฎหมายมารวมกลุ่มในวัด จึงอยากฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการตามกฎหมาย

ก่อนเหตุการณ์ในวันนี้หนึ่งวัน เจ้าอาวาสรูปใหม่ ได้พาคณะและตำรวจ จะเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในวัด แต่มาพบกับนายกิตติศักดิ์ จนเกิดปะทะคารมกันขึ้น ถึงขั้นที่ เจ้าอาวาสรูปใหม่ประกาศฉีกสัญญาที่ทำร่วมกันเมื่อครั้ง ที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้พาคณะที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และทั้งสองฝ่ายมาทำข้อตกลงเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2566  ซึ่งทางฝ่ายนายกิตติศักดิ์ต้องให้ เจ้าอาวาสรูปใหม่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ขัดขวาง จากนั้นวันที่ 22 สิงหาคมทั้งสองฝ่ายได้  ตรวจสอบรายการทรัพย์สินของวัดตามรายการที่ปรากฏในบัญชีของศาลฎีกาจำนวน 161 รายการ ซึ่งการดำเนินการตรวจสอบและส่งมอบทรัพย์สินของวัดทั้งหมด เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ขณะที่นายกิตติศักดิ์ เปิดเผยกับ Mono News ว่าทางฝ่ายเจ้าอาวาสรูปใหม่ผิดข้อตกลงเช่นกันที่จะต้องเข้ามาในวัดเพียงรูปเดียว แต่ที่ผ่านมามีความพยายามนำคนเข้ามาขนย้ายทรัพย์สินออกจากวัด  โดยนายกิตติศักดิ์ระบุอีกว่าการตรวจสอบทรัพย์สินตามบัญชีศาลฎีกา ทางคณะลูกศิษย์เจ้าอาวาสรูปเดิมได้ส่งมอบเรียบร้อยแล้ว แต่ยังมีพระเครื่อง ซึ่งเป็นพระเครื่องของเจ้าอาวาสเดิม และพระเครื่องที่เจ้าอาวาสใหม่ทำขึ้น ซึ่งต้องตรวจสอบว่าปล่อยให้เช่าบูชาไปเป็นเงินเท่าไหร่ และนำเข้าบัญชีถูกต้องหรือไม่

นอกจากนี้นายกิตติศักดิ์ ยังระบุถึงภาพที่ชี้หน้าเจ้าอาวาสตามสื่อที่ลง ยืนยันว่าเดินทางมาที่วัดเพื่อมาพบชาวบ้านแต่มาเจอเจ้าอาวาสที่มากับตำรวจและคณะ โดยเจ้าอาวาสใหม่ถามว่ามาทำไม และยังบอกอีกว่ามาแล้วก็ไปเปิดประตูวัดให้ด้วย ทำให้นายกิตติศักดิ์ตอบกลับไปว่าไม่ใช่หน้าที่ ทำไมมาใช้สว.เปิดประตู  ซึ่งพฤติกรรมของเจ้าอาวาสใหม่ที่พาคนเข้ามาก็ถือว่าทำผิดสัญญา ที่ทำไว้กับบิ๊กโจ๊ก  เมื่อทั้งสองฝ่ายฉีกสัญญาดังนี้แล้วมหากาพย์วัดบางคลานที่ยืดเยื้อมา ตั้งแต่ปี 2557 คงยากที่จะสะสาง สำหรับทรัพย์สินของวัดบางคลานที่เคยตรวจนับครั้งแรกปี 2561 เฉพาะบัญชีเงินฝากมีมากถึง 130 ล้านกว่าบาทยังไม่นับของเก่า พระเครื่องสะสม ที่นับมูลค่าไม่ได้

และตั้งแต่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในวัดแห่งนี้ มี คดีทั้งหมดมี 59 คดี , สั่งฟ้องไปแล้ว 33 คดี , ศาลพิพากษาลงโทษ คดีสิ้นสุดแล้ว 21 คดี , อยู่ในระหว่างการพิจารณาของอัยการ 9 คดี , อัยการสั่งฟ้อง 21 คดี , อัยการสั่งไม่ฟ้อง 15 คดี , ในชั้นพนักงานสอบสวนหลักฐานไม่เพียงพอตำรวจสั่งไม่ฟ้อง 17 คดี , ยกฟ้อง 7 คดี , ยังคงเหลือที่เป็นคดีที่ยังค้างและอยู่ในระหว่างสอบสวน 4 คดีที่มี สว.กิตติศักดิ์ เป็นผู้ถูกกล่าวหา อยู่ในคดีชุดนี้ด้วย และต้องส่งให้ ป.ป.ช.ดำเนินการอยู่ในสำนวนทั้ง 4 คดีนี้ด้วย