นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการขึ้นทะเบียนผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ทั่วประเทศ ว่า ขณะนี้ได้ตั้งกรรมการ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานและตนเป็นรองประธาน และมีปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้องเป็นคณะกรรมการเป็นคณะกรรมการ โดยจะมีการรวบรวมรายชื่อผู้มีอิทธิพลทั่วประเทศก่อน และตรวจสอบดูว่า ยังมีอิทธิพลอยู่หรือไม่ และมาตรวจสอบว่าในพื้นที่มีผู้มีอิทธิพลรายใหม่เกิดขึ้นหรือไม่ โดยจะแบ่งพื้นที่เป็นสีแดง และ สีเหลือง เพื่อทำข้อมูลใหม่ โดยจะเน้นย้ำถึงความเป็นธรรม กับผู้ที่ไม่ได้มีอิทธิพลแล้ว ขณะนี้ ที่เกิดคดีของกำนันนก จะต้องตรวจสอบกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และนักการเมืองท้องถิ่นทั่วประเทศก่อน
นายชาดา ยังกล่าวว่าผู้มีอิทธิพลที่พฤติกรรมไม่ดี มีหลายรูปแบบบางคนไม่ได้มีตำแหน่งแต่มีอิทธิพล แต่บางคนมีอิทธิพลมากถึงขั้นแต่งตั้งนักการเมืองได้ ก็จะต้องตรวจสอบไปตามขั้นตอน ขอให้ทุกคนใจเย็นๆ
เมื่อถามว่าการตรวจสอบผู้มีอิทธิพลในจังหวัดอุทัยธานี เป็นอย่างไร นายชาดากล่าวว่า จบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีการแบ่งพื้นที่เป็นสีแดงและสีเหลืองเรียบร้อยแล้ว โดยสีแดงนั้นมีน้อยมาก เมื่อถามต่อว่า ในพื้นที่จังหวัดนครปฐมต่อไปจะเป็นจุดต่อไปที่จะเข้าไปตรวจสอบหรือไม่นายชาดากล่าวว่า ตรวจพร้อมกันทั่วประเทศทั้งหมด
ส่วนจะมีการเปิดรายชื่อผู้มีธิพลหรือไม่นายชาดา กล่าวว่าไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ เนื่องจากกฎหมายไม่เหมือนสมัยก่อน เพราะมีกฎหมายป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมย้ำว่าการทำงานปัจจุบัน หากมีรายชื่อหลุดไปอาจจะถูกฟ้องร้องได้
เมื่อถามว่าจะให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่มีชื่อปรากฏ จะรีบมาชี้แจงหรือไม่ นายชาดา กล่าวว่า ตนเองมีความเป็นธรรมอยู่แล้ว และไม่สามารถปิดบังตนเองได้
เมื่อถามถึงการตั้งกรอบระยะเวลาการทำบัญชีสีแดงและสีเหลือง นายชาดา กล่าวว่า ขณะนี้พื้นที่จังหวัดอุทัยธานีหมุนเสร็จเรียบร้อยแล้วและในหลายจังหวัดก็จบแล้ว ในการทำงานไม่ได้อยู่ที่กระทรวงมหาดไทยอย่างเดียว แต่มีกระทรวงอื่นมาร่วมทำงานด้วย แต่เบื้องต้นสามารถรวบรวมข้อมูลได้ 20-30 % แล้ว ซึ่งตนเองจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ขออย่าไปบีบเจ้าหน้าที่ให้เร่งทำงาน
เมื่อถามว่ากังวลไหมว่าผู้มีอิทธิพล จะเข้ามาแทรกแซง นายชาดาย้อนถามกลับว่าใครจะมาใหญ่กว่าผม พร้อมหัวเราะแล้วบอกว่าผมตัวใหญ่