หลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา คือ ช่วงเวลาที่ทุกระทรวงต้องเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายตามที่หาเสียงไว้ แต่จะทำได้ 100 เปอร์เซ็นต์ตามคำมั่นหรือไม่…เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่างค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท อาจได้สูงสุด 400 บาท
ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุข เปิดนโยบาย “ควิก วิน” เห็นผลใน 100 วัน 1 ใน 12 นโยบาย คือ การส่งเสริมการบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สะท้อนสภาวการณ์ปัจจุบัน “มีลูกไม่ยากเท่าการหาคู่”
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงชี้แจงการขับเคลื่อนงาน ที่จะน้อมนำและพัฒนางานสาธารณสุขตามแนวพระราชดำริ และโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ ,ยกระดับ 30 บาทพลัส ที่ครอบคลุมการดูแลสุขภาพในทุกมิติ
ทั้งการส่งเสริม-ป้องกัน-รักษา และฟื้นฟูสุขภาพ ผ่านนโยบาย 12 ประเด็น เช่น โรงพยาบาล กทม. 50 เขต 50 โรงพยาบาล ,นโยบายเกี่ยวกับสุขภาพจิต ,การพัฒนาโรงพยาบาลชุมชน และการส่งเสริมการมีบุตร สำหรับผู้ที่ต้องการมีบุตร
กระทรวงสาธารณสุข จะขับเคลื่อนเรื่องอนามัยเจริญพันธุ์ และผลักดันความพร้อมในทุกด้าน ด้วยการกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ เสนอเข้า ครม. แต่ภายใต้สภาวการณ์ปัจจุบัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยอมรับว่า “มีลูกไม่ยากเท่าการหาคู่”
คาดเคาะค่าแรงขั้นต่ำ พ.ย. เป็นของขวัญปีใหม่
ส่วนความหวังของแรงงาน “ค่าแรงขั้นต่ำ” จาก 600 บาท ตามนโยบายของเพื่อไทย แต่ในทางปฏิบัติ…อาจไม่ถึง
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยืนยันว่า จะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เพราะเงินเฟ้อเร่งตัวสูงขึ้น แต่ไม่ใช่ตัวเลข 400 บาททั่วประเทศ เพราะจะเป็นการขึ้นแบบก้าวกระโดด อาจทำให้ธุรกิจเอสเอ็มอีไปต่อไม่ได้ โดยการขยับค่าจ้างขั้นต่ำ จะต้องให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อ
จากนี้…จะหารือกับนายจ้าง-นายจ้าง เพื่อกำหนดรายละเอียด ก่อนจะนำไปหารือในคณะกรรมการไตรภาคี คาดว่า จะสรุปตัวเลขการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำได้ ภายในเดือนพฤศจิกายน เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่
