สถานการณ์ไข้เลือดออกปีนี้ยังต้องเฝ้าระวัง เพราะผู้ป่วยมากกว่าปีที่แล้วหลายเท่า เฉพาะที่ 4 จังหวัดอีสานตอนล่าง เพียงแค่ 2 เดือน พบผู้ป่วยมากกว่า 4,000 คน ส่วนที่นครราชสีมา พบผู้ป่วยมากกว่าปีที่แล้ว เกือบ 5 เท่า
ที่อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา เจ้าหน้าที่เร่งพ่นหมอกควันตามโรงเรียน พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตระหนักถึงอันตรายของโรคไข้เลือดออก ให้ความรู้ในการทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง รณรงค์กำจัดลูกน้ำยุงลายในบ้านเรือน และแจกจ่ายทรายอะเบทกำจัดลูกน้ำยุงลาย หลังพบผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้น
นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา หรือ สคร.9 กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 2 กันยายน มีผู้ป่วยสะสม 6,349 คน และมีรายงานผู้เสียชีวิต 4 คน เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน มีจำนวนผู้ป่วยมากกว่าปีที่แล้ว ตั้งแต่สัปดาห์แรกจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะช่วง
วันที่ 9 กรกฎาคม – 2 กันยายน พบว่า ไข้เลือดออกระบาดอย่างรวดเร็ว มีผู้ป่วยมากถึง 4,181 คน พบผู้ป่วยมากที่สุดในกลุ่มอายุ 10-14 ปี
จำนวนผู้ป่วยสูงสุด ระหว่างวันที่ 9 กรกฎาคม – 2 กันยายน พบว่า อันดับ 1 คือ จังหวัดสุรินทร์ มีผู้ป่วย 1,426 คน เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว มีผู้ป่วยเพียง 274 คน / รองลงมา นครราชสีมา พบผู้ป่วย 1,304 คน เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว พบ 271 คน / บุรีรัมย์ มีผู้ป่วย 757 คน และชัยภูมิ พบผู้ป่วย 694 คน
ส่วนสถานการณ์ไข้เลือดออกทั้งประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 4 กันยายน พบผู้ป่วยมากถึง 87,163 คน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 73 คน ซึ่งพบมากในกลุ่มอายุ 15-24 ปี
มีคำแนะนำให้เฝ้าระวังผู้ป่วย โดยเฉพาะเด็กเล็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและนักเรียน ถ้าตรวจพบผู้ป่วยจะต้องสอบสวนโรคทุกคน และดำเนินตามมาตรการควบคุมโรค และต้องเร่งประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจให้กับประชาชน ร่วมกันป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออกในบ้านตัวเอง และคนในครอบครัวต้องดูแลกันเอง นำมาตรการ 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค คือ เก็บบ้านให้ปลอดโปร่ง เก็บขยะ และเก็บน้ำ ปิดฝาภาชนะใส่น้ำ ป้องกันยุงลายวางไข่
