วันนี้ 13 กันยายน 2566 เวลา 8.20 น. ตำรวจสืบสวนภาค 7, ตำรวจสอบสวนกลาง, ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษอินทรี 7, พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สรรพากร ระดมกำลังเข้าตรวจค้นที่ทำการ บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ หนึ่งในบริษัทที่มีชื่อ “กำนันนก” เป็นกรรมการ ซึ่งมีลักษณะเป็นแพลนท์ปูน มีรถบรรทุกและรถแบ็คโฮจำนวนมาก ภายในมีพนักงานบริษัทเข้ามาทำงานตามปกติ
โดยพนักงานสอบสวนอ่านหมายค้นจากศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ต่อพนักงานของบริษัท แต่ช่วงแรกพนักงานบริษัทและ รปภ. ไม่ยอมเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่เข้าไปภายในแต่โดยดี จนหัวหน้าชุดต้องบอกให้ชุดปฏิบัติการพิเศษอินทรี 7 ปีนข้ามประตูรั้วบริษัทเข้าไปภายใน พร้อมเตือนว่า จะค้นตัว รปภ.ทุกคน หากยังไม่ยอมเปิดประตู จนสุดท้าย รปภ. ยอมเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่เข้าไปด้านใน
ซึ่งระหว่างที่ตำรวจเข้าตรวจค้นด้านในบริษัท พบว่าน้องชายของกำนันนก ค่อยๆเดินออกมาจากโรงงาน แล้วมีรถตู้ออกมารอรับ โดยเจ้าตัวสวมหน้ากากอนามัย มีสีหน้าเรียบเฉย และยังคงปิดปากเงียบ ไม่ยอมพูดอะไรทั้งสิ้น ก่อนขึ้นรถตู้ออกจากพื้นที่ไป
ด้านนายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. เดินทางเข้ามาร่วมตรวจค้นภายในบริษัทดังกล่าวด้วย และเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การลงพื้นที่ในวันนี้ในฐานะศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วยหลายหน่วยงาน โดยเบื้องต้นพบพิรุธ บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด มีพิรุธส่อเข้าข่ายสมคบกันในการประมูลราคา ซึ่งเชื่อว่าผู้กระทำผิดไม่ได้มีแค่คนเดียว การตรวจค้นวันนี้จะรวบรวมพยานหลักฐาน นำไปวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เพื่อหาจุดเชื่อมโยงไปถึงตัวผู้กระทำผิดคนอื่นๆ ถ้าถึงใครก็เตรียมรับผิดได้
โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กระทำผิด วันนี้มีเจ้าหน้าที่ทั้งจากกรมบัญชีกลาง กรมสรรพากร มาตรวจสอบเรื่องการเสียภาษี รวมถึง ป.ป.ง. ได้เข้ามาตรวจสอบกรณีที่เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งจากการตรวจค้นในขณะนี้ มีประโยชน์ต่อรูปคดีมาก และเห็นเค้าลางบางสิ่งที่สำคัญและเชื่อมโยงคนที่อยู่ในกระบวนการทั้งหมดได้ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นการฮั้วประมูล หรือมีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องนำหลักฐานเอกสารไปวิเคราะห์ ถึงจะสามารถลงรายละเอียดได้ ซึ่งการที่ลงพื้นที่ตรวจค้นทั้ง 4 จุดวันนี้ ยืนยันว่า ทุกจุดมีความเชื่อมโยงกันมาก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ส่วนกรณีที่เครือญาติของกำนันนกซึ่งเป็นผู้บริหารบริษัท เดินออกมาขึ้นรถตู้ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้น จะถือว่าไม่ให้ความร่วมมือหรือไม่ นายภูมิวิศาล บอกว่า เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้ แต่หากพบว่ากระทำผิด ก็ไม่สามารถหนีไปไหนรอด
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบรถ SUV สีขาว และรถกระบะสีบรอนซ์เทา มีลักษณะตรงกับรถของกำนันนกและนายหน่องมือปืนที่ยิงสารวัตรแบงค์เสียชีวิต หลบหนีในวันเกิดเหตุ มาจอดทิ้งเอาไว้ด้านในของบริษัทแห่งนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบและรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน มาเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง