พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.2 บก.ทล. ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงตัวเอง ภายในบ้านพักพื้นที่ย่านคูคต จ.ปทุมธานี ซึ่งเพื่อนที่ใกล้ชิดเชื่อว่ามีสาเหตุจากความเครียด หลังถูกพาดพิงว่าเป็นคนโทรศัพท์ตาม พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.กก.2 บก.ทล. ให้มาที่บ้านกำนัน ก่อนถูกนายธนัญชัย หมั่นคล้าย ลูกน้องกำนก ยิงเสียชีวิต ต่อมานายธนัญชัย มือปืนก็ถูกวิสามัญฆาตกรรมในวันรุ่งขึ้น
มีแหล่งข่าวจากกองปราบฯ รายงานว่า พันตำรวจเอกวชิรา เป็นคนพาสารวัตรแบงค์ไปส่งโรงพยาบาล โดยแหล่งข่าวยืนยัน หลังเกิดเรื่องนี้ พันตำรวจเอกวชิรา หน้าตาหมองคล้ำและเครียดอย่างหนัก แต่ยังไม่ทันพูดคุย ก็คิดสั้นก่อน นอกจากนี้มีรายงาน ว่า ก่อนก่อเหตุวันนี้ เจ้าตัวพิมพ์ไปในแชทกลุ่มไลน์ของเพื่อน นรต.รุ่น 55 ช่วงเช้า บอกว่า “จะฆ่าตัวตาย” ซึ่งเพื่อนในแชท ต่างก็ให้กำลังใจ และไม่มีใครคาดคิดว่า พันตำรวจเอกวชิราจะจบชีวิตแบบนี้
เส้นทางชีวิต ของพ.ต.อ. หรือ ผู้กำกับเบิ้ม เคยให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ police news เมื่อปี 2564 ถึงการรับราชการตำรวจ ว่าหลังจบ นรต.รุ่น 55 บรรจุครั้งแรกที่ อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ เมื่อปี 2545 ต่อมาในปี 2547 เข้ารับราชการที่กองบังคับการกองปราบปราม ในตำแหน่ง ผกก.แผนก 3 กอง 4 หลังอยู่กองปราบปราบนาน 7 ปี ย้ายมาสังกับกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ก่อนย้ายกับมาที่หน่วยคอมมานโด ขณะนั้นเข้าอบรมหลักสูตรต่อต้านก่อการร้ายที่ค่ายนเรศวร 261 เป็นหัวหน้าทีม 01 นเรศวร รุ่น 15 ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าหลักสูตรดังกล่าวโหด หินแค่ไหน ในปี 2564 ขึ้นเป็นผกก.กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (กก.ปพ.บช.ก) นามเรียกขาน สยบ1(สยบ ย่อมาจากสยบริปูสะท้าน)
ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น