รมว.พลังงานเตรียมเสนอปรับลดโครงสร้างราคาน้ำมัน – นำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเสรี ‘กรณ์’ เห็นด้วยปรับโครงสร้าง ชี้ ไทย เป็นประเทศส่งออกนํ้ามันสำเร็จรูป ไม่เข้าใจจะนำเข้านํ้ามันสำเร็จรูปจากไหนที่ราคาตํ่ากว่าไทย
เมื่อวันที่ 4 กันยายน จากกรณี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เตรียมเสนอปรับลดราคาน้ำมัน – ไฟฟ้าเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน พร้อมเตรียมเปิดนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเสรีเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถหาพลังงานในราคาที่เป็นธรรมและเหมาะสม รวมทั้งเปิดนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเสรีนั้น
อีกด้านหนึ่งทีมข่าวโมโน29 ได้สัมภาษณ์ นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อดีตหัวหน้าพรรคกล้าและอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถึงประเด็นได้กล่าว โดยนายกรณ์ ระบุว่า สำหรับข้อเสนอในประเด็นการปรับลดตัวโครงสร้างราคาน้ำมัน เช่นภาษี การหักเข้ากองทุนนํ้ามัน ค่าการตลาด หรือค่าการกลั่น นั้น ตนมอง 3 ประการ ได้แก่
- เรื่องภาษี ตอนนี้มีรัฐบาลเต็มตัว สามารถนำเรื่องเข้า กพช. เพื่อเสนอลดภาษีสรรพสามิตได้ แต่ผู้ตัดสินใจคือคลัง
- เรื่องค่าการตลาด เห็นด้วยที่ต้องกำกับไม่ให้สูงเกินไป โดยเฉพาะกรณีเบนซินที่มีเก็บแพงไปในบางช่วง
3 พรรคกล้าเคยพูดไว้ว่า ค่าการกลั่นบางครั้งสูงเกินไป เช่นช่วงกลางปี 2565 หรือแม้แต่เดือนส.ค. ที่ผ่านมาเราก็ปล่อยให้ค่าการกลั่นเฉลี่ยสูงขึ้นมาถึง 3.33 บาท
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวสรุปว่า ดังนั้นราคานํ้ามันลดลงได้ทันที ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาล อย่างตอนนี้รัฐบาลเก็บภาษีสรรพสามิตนํ้ามันดีเซลอยู่ถึง 5.99บาท ต่อลิตร G91 เก็บ 5.85บาท ต่อลิตร ลดลงเลยได้ แต่คลังจะสูญเสียรายได้ ขณะนี้รัฐชดเชยราคานํ้ามันดีเซลอยู่ถึง 4.49 บาทต่อลิตรด้วยกองทุนน้ำมัน คือมือซ้ายเก็บภาษี 5.99 ส่วนมือขวาคืนเงินด้วยกองทุนน้ำมัน 4.99
ขณะที่ประเด็นของการเตรียมเปิดนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเสรีที่ รมว.พลังงานเสนอนั้น นายกรณ์ระบุว่า ในส่วนประเด็นนี้ ตนขอไม่แสดงความคิดเห็นเพราะไม่เข้าใจในประเด็น เรามีกำลังการผลิตเกินความต้องการอยู่แล้ว ไทยเป็นประเทศส่งออกนํ้ามันสำเร็จรูปด้วยซ้ำไป และราคาหน้าโรงกลั่นเราก็ขึ้นอยู่กับราคาตลาดโลกอยู่แล้ว ดังนั้นตนไม่เข้าใจว่าท่านรัฐมนตรีตั้งใจจะให้มีการนำเข้านํ้ามันสำเร็จรูปจากไหนที่ราคาตํ่ากว่าไทย พร้อมกล่าวว่า ที่น่าจะทำมากกว่าคือตามที่ท่านรัฐมนตรีพูดไว้ คือปรับในตัวโครงสร้างราคานํ้ามัน
สำหรับแนวทางการดำเนินการในเรื่องราคาพลังงานที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เตรียมเสนอนั้น นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า มีเรื่องหลักๆ ที่ต้องเร่งดำเนินการคือ ราคาน้ำมัน และ ราคาไฟฟ้า ซึ่งมีองค์ประกอบของราคาหลายอย่าง เช่น เรื่องภาษี เรื่องค่าการตลาด เรื่องภาระการเงินและเงินกู้ และอีกหลายเรื่องที่มาประกอบกัน บางองค์ประกอบเป็นเรื่องที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ต้นทุนของก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้า หรือต้นทุนของราคาน้ำมันดิบ เป็นต้น แต่สิ่งที่สามารถพิจารณาดำเนินการได้คือ โครงสร้างและองค์ประกอบที่มารวมกันจนเป็นราคาขายของพลังงานเหล่านี้ จะต้องมาดูว่าส่วนไหนที่สามารถตัดทิ้ง หรือปรับลดลงได้ก็จะทำทั้งหมด และเมื่อค่าใช้จ่ายลดลง ราคาของพลังงานต่าง ๆ ก็จะสามารถปรับลดลงได้ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมและเป็นธรรมกับประชาชน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวต่อว่า นโยบายหลักสำคัญอีกประการหนึ่ง ตนเห็นว่า ควรจะให้โอกาสเสรีในการหาน้ำมันสำเร็จรูป ที่ไม่ใช่การนำน้ำมันดิบเข้ามากลั่นจนทำให้มีต้นทุน ค่าใช้จ่ายที่ควบคุมลำบาก แต่หากเป็นการนำน้ำมันสำเร็จรูปที่ ไม่ต้องมีค่าการกลั่น หรือค่าใช้จ่ายอื่น เพราะราคาทุกอย่างคำนวณจบแล้ว และถ้าหากใครสามารถนำพลังงานราคาถูกเข้ามาได้ ก็ควรเปิดโอกาสให้ทำได้ โดยภาครัฐควรจะเป็นผู้กำกับดูแลให้การจัดหาพลังงานเป็นไปโดยสะดวกและรวดเร็ว ไม่ใช่วางกฎกติกาจนทำไม่ได้