นายดานิล อันดูเน็นคอฟ (Mr.Daniil Aldunenkov) อายุ 23 ปี สัญชาติ รัสเชีย ถูกตำรวจสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 เข้าจับกุมที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในตำบลแม่น้ำ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งนายดานิล เป็นเจ้าของคริปโต ที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์เครือข่ายกัมพูชาใช้ฟอกเงิน เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ สามี ฆ่าภรรยาและลูกก่อนจะปาดคอตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส ในพื้นที่ ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งการสืบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุมีหนี้จำนวนมากจนทำให้ถูกยึดบ้าน และภรรยาของผู้ก่อเหตุได้ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาจากหลายที่เป็นเงินกว่า 1,700,000 บาท ทำให้ถูกเจ้าหนี้มาตามทวงทุกวัน สาเหตุนี้จึงน่าจะเป็นชนวนเหตุที่ทำให้ผู้ก่อเหตุลงมือฆ่าคนในครอบครัว
โดยตำรวจได้แสดงหมายจับกับนายดานิล ในฐานความผิด “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากและบัตรอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สำหรับคดีนี้มีผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับทั้งหมดแล้ว 5 ราย เป็นชาย 3 ราย และหญิง 2 ราย แยกเป็นบัญชีม้าแถว 1 ที่มีการถอนเงินไปแล้ว 1.7 ล้าน รวม 14 ครั้ง มีการโอนย้ายไปยังบัญชีม้าแถว 2 ซึ่งตำรวจได้หลักฐานออกหมายจับได้อีก 4 ราย และขยายผลพบเส้นทางการเงินบางส่วนโอนออกไปต่างประเทศ และจะขยายผลเกี่ยวกับเว็บปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดด้วย
มีรายงานข่าววันเดียวกันนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้างานกำกับดูแลด้านการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางโดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ ไปยังประเทศกัมพูชา เพื่อติดตามความคืบหน้าการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี พร้อมเจรจาและหารือกับ ผู้บัญชาการตำรวจประเทศกัมพูชา และนายตำรวจระดับสูงของกัมพูชา เพื่อขอความร่วมมือในการปราบปราม “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ชาวจีน ที่ใช้ประเทศกัมพูชา เป็นฐานหลอกลวงคนไทย